Barcamp Bangkhen ปีที่ 3 #bcbk จากผู้ฟังสู่ผู้พูด(แบบงงๆ)

ห่างหายไปนานเหลือเกินกับการเขียน Blog = =)" ยอมรับผิดแต่โดยดีจ้า กลับมาคราวนี้อย่างแรกที่ต้องตกใจคือ หน้าจอในการเขียน Blog ก็ยังเปลี่ยนไป (แค่ไม่ได้เข้ามาเขียนครึ่งปีเองนะ แฮร่~) T^T เอาจริงๆ ก็ยังไม่ได้หายไปไหนน้า แอบไปเป็นนักเขียนน้อยๆ อยู่ที่ INCquity.com (แต่ไม่บอกแล้วกันว่าเขียน entry ไหนบ้าง เดี๋ยวจะโดนเฉ่งเละ 55+)

กลับมาคราวนี้ ด้วยเรื่องที่คุ้นเคยกันดี Barcamp Bangkhen ปีที่ 3 (16 Sep 2012) ค่า ใครที่ไม่รู้ว่า Barcamp คืออะไร มีความเป็นมายังไง จัดมากี่ครั้ง หรืออะไรก็แล้วตาม คลิกเข้าไปที่

เว็บไซต์หลักของงานนี้ barcampbangkhen.org
และ Entry เก่ากึกๆ ของข้าพเจ้า มี 3 ตอนด้วยกัน
ภาพจาก  http://barcampbangkhen.org
สำหรับปีนี้ ก็ยังจัดที่สถานที่เดิม IUP (17th) Building, faculty of Engineering, Kasetsart University แล้วบรรยากาศปีนี้ก็เป็นใจซะเหลือเกิน ฝนตกปรอยๆ พรำๆ เหมือนตอนปีแรกไม่มีผิด (น่านอนชะมัด) 

กว่าจะเคลื่อนตัวมาถึงงานได้ก็ประมาณ 9.20 น. ละ (เกือบปิดลงทะเบียนแล้ว = =") เช่นเคยสำหรับของที่ได้รับในงานคือ เสื้อยืด และ สติ๊กเกอร์เขียนชื่อตัวเองค่ะ

เสื้อปีนี้ ด้านหน้าเป็นตัวอักษร A-Z แบบ geek ๆ ค่ะ ส่วนด้านหลังก็สปอนเซอร์เช่นเคย
แสดงความเป็นตัวตนกันซะหน่อย //ลายมือแย่ลงทุกปี T^T
หลังจากที่ทำการทักทายกับผู้คนมากมาย (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมปีนี้รู้จักคนเยอะจัง 55) ก็โดน staff ลากขึ้นไปที่ชั้นสอง เพื่อทำการ vote Session ที่สนใจค่ะ

ไปถึงได้ไม่นาน Session ช่วงแรกก็โผล่มาให้ได้เห็นค่าหน้าค่าตากัน
สภาพเตรียมแปะขึ้นบอร์ด
ก่อนที่จะตัดสินใจเข้า Session ไหนดี ก็เข้าไปนั่งในห้องกระจกชั้นสอง แล้ว @geigege ก็ชี้ให้เห็นกับคนคู่หนึ่ง ...กรี๊ดดดดดดด (อยู่ในใจเบาๆ) พี่เอ็ม @khajochi กับพี่เชอร์รี่ @cherryjaja อ๊าาาาาาา พี่สองคนจะมาพูดเรื่อง "Geek อย่างไรให้ไม่โสด #2" (นั่งตามข่าวใน twitter เมื่อคืนแบบเกาะขอบสนาม)
ขออนุญาตถ่ายภาพ Celeb นะคะ (พี่เค้าอนุญาตตั้งแต่เมื่อไหร่ = =")
พี่เอ็ม @khajochi กับพี่เชอร์รี่ @cherryjaja
อย่างปีที่แล้ว ยอมรับว่าไม่ได้เข้าฟัง Geek อย่างไรให้ไม่โสด ภาคแรกหรอกค่ะ แต่ไปตามอ่าน blog พี่เอ็มเค้าหลังจบงาน ก็เลยติดใจนิดหนึ่ง ยิ่งมาเจอ blog ของพี่เชอร์รี่ เป็นแฟน Geek ต้องอดทนค่าาา - ข้อแนะนำสำหรับสาวๆ ที่จะคบ Geek เป็นแฟน พี่เชอร์รี่ก็กลายเป็น idol ไปทันที (ปล่อยพี่เอ็มไป 555)

ตามธรรมเนียมของงานนี้แล้วเราต้องเข้าห้องประชุมใหญ่ (ปีนี้ใช้ชื่อว่าห้อง Dek-D) เพื่อไปเปิดงานกันก่อนค่ะ พิธีกรปีนี้มาแบบชิลๆ เป็นน้องผู้ชายสองคน (รู้จักน้องที่เป็นพิธีกรอยู่คนหนึ่ง) ปีนี้เป็นการเปิดงานที่ไม่เป็นทางการ(อย่างมากๆ) น้องทั้งสองคนพยายามเล่นมุข (ที่ฮาบ้างและไม่ฮาบ้าง) พอบอกถึงข้อดีของงานนี้ทีไรก็ไม่พ้นเรื่อง "เสื้อฟรี" (ย้ำหลายรอบมาก) น้องต้องการจะสื่ออะไรหรือเปล่าคะ - -"

ภาพจาก Google+

แต่ที่ประทับใจที่สุดคงเป็นตอนที่ขอให้ทุกคนช่วยกัน ทวีตเปิดงาน โดยติด tag #bcbk ค่ะ ไม่รู้ว่าจะติด 
trend หรือไม่ แต่วิธีนี้พี่ว่าหลายๆ คนที่เข้าร่วมงานคงชอบใจไม่มากก็น้อยค่ะ

ก็โดนสั่งให้ tweet จริงๆ นี่หน่า :P
แต่ความประทับใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เนื่องจากปีนี้คนเยอะมาก(กกกกกกกก) ถ้าเทียบกับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โทษฐานที่เข้าห้องประชุมช้า ก็เลยต้องนั่งพื้นค่ะ -3- //คาดว่าปีหน้า (ถ้ายังจัดอยู่) คนคงเยอะกว่านี้อีกแน่ๆ เลยค่ะ :D
ภาพจาก Google+
หลังจากที่เราทวีตเปิดงาน ขอบคุณสปอนเซอร์ทั้งหลายแล้ว Session ก็ Begins!!!

ใน Session แรกเราเลือกเข้าไปฟังหัวข้อ

Top 10 Reasons why web development fail #17401


เข้ามาถึงช้าไปหน่อย เลยฟังไม่ครบ (อีกอย่างคือ คนพูดเป็นชาวต่างชาติ ภาษาอังกฤษที่มีก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่ T^T) พอจะสรุปใจความได้ ดังนี้ค่ะ

หากคุณเป็น Start up แล้วล่ะก็
  1. Don't spend so much on luxury อย่าทำตัวฟุ่มเฟือยค่ะ แล้วก้ให้ understand ใน skill ของตัวเอง ว่าทำอะไรได้ หรือทำอะไรไม่ได้
  2. Don't over promise, under deliver แปลเป็นไทยง่ายๆ ตามความเข้าใจของตัวเองว่า อย่าสักแต่รับปากแต่ทำไม่ได้จริง!
  3. Taxes เป็นเรื่องสำคัญที่ควรรู้ว่าถ้าจะ start up ในประเทศไทย ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ เป็นต้น
  4. Loans (ฟังไม่ทันค่ะ)
  5. หลังจากการ Sale จงมี service ที่ดี จะเป็นผลทำให้ลูกค้าเกิด loyalty กับเรา
  6. เรื่องของ management and investment เมื่อธุรกิจพร้อมจะเติบโต/ลงทุนเพิ่มก็ค่อยขยายตัว หลังจากเปิดกิจการมา 1 ปี ควรสนใจเรื่องพวกนี้ได้แล้ว 
  7. เข้าใจลูกค้าของเรา ถ้ารับปากลูกค้าแล้วให้คอย follow up ทำงานไปด้วยกันกับลูกค้า ทำให้เกิด relationship ที่ดี
  8. Spend time on contact presentation เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการใส่ใจใน proposal / presentation ของตัวเราเองที่จะไปนำเสนอขาย ไม่ใช่มีรายละเอียดแค่ 1 หน้าเท่านั้น 
  9. Get rid off ลูกจ้าง (hired) ถ้าเราให้ requirement ที่เราอยากได้กับพนักงานของเราแล้ว ถ้าเค้าทำตามไม่ได้ก็จำเป็นต้องให้ออก เราต้อง make sure ให้ได้ว่าเรามี right resource (ในทุกๆ ด้าน)
  10. Don't be afraid to ask for help อย่ากลัวที่จะถาม หรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
แล้วเค้าก็ให้ไอเดียว่า ถ้าคิดจะทำอะไรจริงๆ อย่ามัวแต่อยู่ใน bubble คิดจะทำอะไรให้แหวกๆ อย่าหาจาก Google คล้ายๆ กับ "กบนอกกะลา" เหมือนกันเนอะ ^^"

สิ่งสำคัญที่ได้จาก session นี้ก็คือ Do Legally Start up นะคะ

ภาพจาก  http://barcampbangkhen.org

จากนั้นเราก็ไปต่อที่
ทำไงให้เว็บเร็ว ตอน เว็บ(จ่า)ช้ามากเบยยยส์ Make the web faster #Dek-D

ความเจ็บของการเข้ามาฟัง session นี้ก็คือ เทคนิ๊คเทคนิค (แต่ก็พอฟังได้อยู่นิดหน่อย...= =") สรุปใจความได้ประมาณนี้ค่ะ

  1. จำนวนของ HTTP request ยิ่งมีน้อย เว็บก็จะยิ่งเร็วขึ้น
  2. Browser สามารถ Download 2-4 (หรือ6..จำไม่ได้) Components in parallel / hostname แบบเดียวกัน
  3. CSS เอาไว้ที่ header สำหรับตัวที่ใช้ render หน้าเว็บ แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับการแสดงผล สามารถเอาไว้ส่วนอื่นได้
  4. minify JS, CSS, HTML
  5. Set expires cache
  6. using unique filenames
  7. CDN: Content Delivery Network
  8. cache content ใน distributed system
  9. Cloud Flare
  10. statscrop.com
  11. page speed tool (chrome extension)
  12. tools.pingdom.com/fpt (test the load time of a webpage)
  13. webpagetest.org (beta)
  14. https://developers.google.com/speed/
ในระหว่างที่รอ (อะไรสักอย่างโหลด) ท่านผู้พูด @vinboxx ก็เปิดเว็บ instagrl.com ให้ดู (เอ่อม....ซะงั้นอะ)
ภาพจาก Google+
ส่วนที่ประทับใจสุดๆ จาก Session นี้ก็คือ
เว็บ(จ่า)กากมากเบยยยยยยยยยย เป็นการเปิด vdo demo ระหว่างเว็บ original กับเว็บที่ผ่านการ optimized แล้ว ผลออกมาว่า original = 52.3 ส่วน optimized = 10.5 (ต่างกันหลายเท่าตัวเลยทีเดียว)
ภาพจาก Google+
อย่างไรก็แล้วแต่!!! เข้าไปสูบความรู้จาก slide ของท่านผู้พูดที่ goo.gl/4p9NG นะคะ :D

> > > > LUNCH TIME < < < <

คิวต่อแถวกินข้าวกลางวัน ยาวแบบนี้ทุกปี (ก็ลงมาช้าทุกปี ก็ต้องทำใจ) = ="
หลังจากที่ต้องกินข้าวด้วยความเร็วสูง (10 นาที) ไม่รวมต่อแถว (เกือบครึ่งชั่วโมง) ก็ได้เวลาเข้า session ช่วงบ่ายกันแล้วค่า

ภาพจาก  http://barcampbangkhen.org
Google Student Ambassador, Who are we? How to join us? #Dek-D
ภาพจาก Google+
เปิดช่วงบ่ายด้วยเรื่องเบาๆ สนุกๆ จากน้อง Google Student Ambassador (GSA) เล่าว่า GSA คืออะไร ไปเที่ยวกันมาสนุกขนาดไหน และแน่นอนว่าห้องนี้ของแจกเพียบ!!! ถามคำถาม ตอบได้ รับไปเลย!!! (แต่เราได้มาแค่ stickers -- ที่ทุกคนใน session ก็ได้ 55)

ภาพจาก Google+
ถ้าจะพูดถึง GSA แล้ว...คือพี่ก็อยากเป็นนะ แต่มันดันเปิดรับสมัครในปีที่พี่กำลังจะจบการศึกษา ตอนที่มาช่วยงานวันสัมภาษณ์ก็ได้แค่ทำตาปริบๆ --แก่ไป-- อดไปตามระเบียบ T^T
เข้าไปทำความรู้จักกับน้องๆ กลุ่มนี้ได้ที่

ภาพด้านล่างนี้ แข่งตอบชื่อ product ของ Google ค่ะ ชิง Flash Drive Android (รู้สึกแนวนี้คุ้นๆ นะ ตอบชื่อ product ไปเรื่อยๆ เนี่ย เหมือนปีที่แล้วในงานนี้ MS ก็มาแนวนี้เหมือนกัน)
ภาพจาก Google+

อะๆ เดี๋ยวเข้า seesion นี้แล้วจะหาว่าไม่ได้ความรู้เลยก็ไม่ใช่ ในหลายสิ่งหลายอย่างที่(บังเอิญ)รู้อยู่แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย นั่นคือ Google Mission << ตอนแรกที่ได้ยินคำถามนึกว่าตอบ Don't be evil ซะอีก = =" อะๆ มาเพิ่มความรู้ใส่ตัวกันหน่อย Google Mission เป็นดังนี้ค่า
Google’s mission is to organize the world’s information and make it universally accessible and useful.
และสำหรับใครที่อยากเป็น GSA ในปีหน้า ก็อย่าลืมเตรียมตัวกันให้พร้อมนะคะ คนเป็น GSA พี่ว่าได้รับโอกาสหลายอย่าง (ที่น่าอิจฉามากๆ เลย) :D


มาใช้ชีวิตอย่างมี "ประสิทธิภาพ" กันเถอะ ได้โปรด!! #Dek-D

session นี้อาจจะเรียกว่า "อำมาตย์" ก็ได้มั้ง มาทีไรก็ได้พูด ไม่ต้อง vote (แต่คนก็ล้นห้องเสมอนะคะ ^^) น่าเสียดายที่ปีนี้ พี่หนุ่ย ไม่ได้มาด้วย จึงเป็นการ โชว์ dual microphone ของพี่หลาม @sharkshows กับพี่โก๋ @ripmilla ค่ะ 

ปีนี้ concept มาแปลกนิดนึงตรงที่ไม่ใช่ IT จ๋าๆ มาก แต่เป็น IT ที่เอามาประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ

เริ่มด้วย

10 o'clock rule 
  1. ทันทีที่นาฬิกาบอกเวลา 22.00 น. ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ ให้หยุดทำสิ่งนั้น แล้ว...
  2. เตรียมชุดทำงานพรุ่งนี้ พร้อมเงินสดในกระเป๋าตังค์
  3. คิดว่าจะกิน หรือทำอะไรกินเป็นอาหารเช้า
  4. เตรียมเอกสาร ของใช้งานทั้งหลายใส่กระเป๋าให้พร้อม
  5. ชาร์จโทรศัพท์มือถือ โนตบุค แท็บเล็ต ให้เต็มเปี่ยม
  6. ตรวจสอบงานใน to do list หรือปฏิทินการทำงานของคุณ
จะได้ไม่เสียเวลาตอนเช้าไปกับเรื่องวุ่นวาย (แต่เป็นกันบ่อยๆ) อีกต่อไปค่า

คำนวณการนอนด้วย Bed time Calculator
  1. คำนวณให้ตื่นตอนช่วงที่หลับตื้นพอดี อย่าตื่นช่วงหลับลึก ไม่งั้นจะเป็นซอมบี้ไปทั้งวัน
  2. ใช้ sleepyti.me (bedtime calculator) ช่วยคุณดูสิ
  3. โดยปกติแล้วคนเราจะใช้เวลาประมาณ 14 นาที หลังหัวถึงหมอนแล้วนอนหลับ
  4. 1 cycle ในการนอนของคนเรา มีค่าประมาณ 90 นาที เพราะฉะนั้นเวลาคำนวณการตื่นก็ 90+14 เนอะ
  5. การที่เราตื่นระหว่าง cycle จะทำให้เราไม่ง่วงมาก อย่าลืมไปทดลองใช้กันดูนะคะ
วิธีคำนวณความสำคัญของงานในการทำงาน
  1. ความลำบากในการทำงาน / ผลของงานที่ได้ = ลำดับความสำคัญของงาน
  2. อันไหนที่ priority มากกว่า ก็ทำสิ่งนั้นก่อน
  3. โดยให้เลขมากกว่ามี priority สูงกว่า เรียงจาก 10 ไป 1 (หรือถ้าใครจะกลับดูก็น่าจะได้นะ 55)
ภาพจาก Google+
ใช้ระบบอัตโนมัติในการทำงาน 
  1. ifttt.com บังเอิญว่าใช้อยู่ก่อนแล้ว เลยไม่ได้จด detail มาค่ะ ลองไปใช้กันดูนะคะ work มากๆ เลย
  2. อย่าเสียสมาธิไปกับ notification จากหลากหลายที่
  3. จัดการ email อย่างชาญฉลาด ด้วยการ filtering email คัดแยกอีเมล | email tag เข้าใจอีเมลง่ายขึ้น | subject line ที่ดี ช่วยให้ค้นหาอีเมลได้ง่ายขึ้น อย่าสักแต่ตั้งชื่อแบบ "ดูให้หน่อย" นะคะ มันไม่สื่ออะไรเลย
  4. ใช้เวลาตอนนั่งส้วม (เอ่อมมม) ลบอีเมลที่ไม่ใช้งานออก
  5. ถ้าเสร็จงานในอีเมลฉบับนั้นแล้วให้ขอบคุณล่วงหน้าแนบไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาส่งอีเมลขอบคุณอีกรอบ (ส่งขอบคุณกันไปมาอยู่นั่นแหละ) ถ้าเป็นต่างชาติจะใช้คำว่า NRN (No reply Needed) --เลิกตอบได้แล้ว ไอ้ส...ด (เซนเซอร์ค่ะ 55)
ป้องกัน spam ด้วย scr.im
  1. เราอาจจะมีวิธีป้องกันอีเมลของเราหลายวิธีเช่น xxx แอท .com (หรือแบบอื่น), การใช้ไฟล์ภาพ
  2. ถ้าเราทำอีเมลของเราจาก scr.im จะได้เป็น link มา พอคลิกที่ link แล้วค่อยโผล่เป็นอีเมล (signature ลงท้ายเมลเรานั่นแหละ)
Boomerang plugin (chrome)
  1. สามารถตั้งเวลาส่งอีเมลในอนาคตได้
  2. remind อีกทีในอนาคตก็ได้
  3. ดู feedback การตอบอีเมลก็ได้เช่นกัน
(คงมีอีกหลายฟีเจอร์ให้ไปลองใช้กันค่ะ)

จัดการตารางนัดหมายด้วย doodle.com

อันนี้เด็ดสุด!!!

จัดการเพื่อนอีช่างถามด้วย letmegooglethatforyou.com อันนี้เราไม่ขอบอกสรรพคุณค่ะ แต่ต้องไปลองเองแล้วจะเข้าใจ 555
ภาพจาก Google+
ทำงานด้วยสองจอ โคตรสะดวก

Getpocket.com ประมาณ read it later

สุดท้ายแล้ว ช่วยๆ กันประชุมด้วยระบบ conference (เช่น Google + Hangout)

session นี้นอกจากจะได้ความรู้ tools ใหม่ๆ แล้ว ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อีกเช่นเคยค่ะ XD และต่อไปขอเสนอ session ที่ทุกท่านรอคอย (หรือเราคนเดียวก็ไม่รู้) นั่นคือ...

Geek อย่างไรให้ไม่โสด ภาค 2 #Dek-D

พี่เอ็ม @khajochi กับพี่เชอร์รี่ @cherryjaja ค่ะ เปิดตัวด้วยการแนะนำตัวเองเบื้องต้นของพี่ๆ ทั้งคู่ ได้เห็นตัวจริงและได้ยินเสียงชัดๆ ของพี่เชอร์รี่แล้วแบบ...ปลื้ม...พี่เค้าน่ารักมากเลยอ่า //เยอะไปๆ 
ภาพจาก Google+

แล้วพี่เอ็มก็เริ่มด้วย

1. ทำไม Geek ส่วนใหญ่ถึงโสด???
  • พูดจาไม่รู้เรื่อง ประหลาด หื่น เสียบุคลิก ไม่มีความมั่นใจ
  • ภาพ anatomy of geek //ทำเอาฮากันทั้งห้อง

ภาพจาก  http://geekstuff101.blogspot.com/2009/11/anatomy-of-geek.html
  • ดูจริงจัง ไม่เป็นมิตร
  • สนใจสิ่งอื่นมากกว่าสิ่งตรงหน้า
2. ทำไมผู้ชายชอบจีบผู้หญิงที่สวยที่สุด?
  • เป็นการทดลองวิจัยศึกษาเรื่องนี้จริง
  • เหตุผลของการทดลองนี้คือ ผู้ชายชอบการแข่งขัน ขอคนที่สวยที่สุดไว้ก่อน
ผู้ชายชอบการแข่งขัน แต่ความรักไม่ใช่อย่างนั้น #bcbk
  • แต่พยายามอย่าชกนอก league --ยังไม่ค่อยเข้าใจประเด็นนี้เหมือนกัน--
  • คนไม่สวย ไม่น่ารัก แต่นิสัยดี มีเยอะแยะ อย่างในงานนี้ #ห๊ะ
  • เราไม่ได้หล่ออย่างที่เราคิด
"เวลาส่องกระจก ผู้ชาย:"กูหล่อ หน้าตาดี เท่ "ผู้หญิง:"โอ๊ย ดำ อ้วน สิวขึ้น แขนใหญ่" via @khajochi #bcbk" // From: @icez
  • อย่าเป็นนักเลง (เกรียน) keyboard
ทำยังไงดี?
  • ลดความมั่นใจในตัวเองลง
  • เพิ่มรอยยิ้ม
  • ลดเวลาหน้าจอลง 20%
ข้อแนะนำในการขอสาวออกเดท
  • ให้เพื่อนช่วยชง อย่าเข้าไปตรงๆ
  • ถ้าคิดไม่ออกให้ลอกผู้มีประสบการณ์
ถ้าไม่รู้จะจีบยังไง ให้ "ลอก" ผู้มีประสบการ์ณ *ภาพประกอบ Geek มาก* via @khajochi #bcbk pic.twitter.com/SP3gyTjR // From: @imtaiki
  • เขินได้ ยิ้มได้ น่ารักดี
  • อย่าเล่นมุขเสี่ยว
  • คิดก่อนชวน
  • ถ้าไม่กล้า ระวัง มคปด. (ตอนแรกก็งง เลยหันไปถามคนข้างๆ เพื่อนเดียร์แปลให้ฟังว่า "หมาคาบไปแดก" อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง)
อย่าชวนไปที่อโคจรของสาวๆ
  • pantip plaza
  • ร้าน net / ร้าน game
  • ร้านขายคอม
  • ร้านหนังสือ <-- แต่เราชอบร้านหนังสือนะ -*-
แล้วชวนไปไหนดี?
  • ห้างสรรพสินค้า -- ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของ shopping ฯลฯ
  • สวนสาธารณะ
  • ดูหนัง
  • ดู concert
  • โยนโบว์ลิ่ง / ice skate
ไม่ควรไป
  • ร้านที่ไม่เคยไป / ร้านคับแคบ
ควรไปร้าน
  • อร่อย
  • สามารถคุยได้
  • เดินทางสะดวก
  • จองได้ (ก็ดี) -- ถ้าเดินเข้าไปแล้วบอกว่า จองแล้วชื่อ... มันจะหล่อมาก 55
หลังจากออกเดท
  • ขอบคุณที่มาด้วย
  • ไปส่ง (เท่าที่จะส่งได้)
  • ถือของให้
  • lady first
  • ให้เธอพูดมากกว่า
  • msg หลังเดทเสร็จ
**ไม่ควรพกเครื่องเล่นเกมส์ / โนตบุค / หนังสือไปเวลาออกเดท** แม้มันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ก็ตาม

ภาพจาก Google+
ปัญหาในการคบ geek // พี่เชอร์รี่พูดแล้วจ้า
  • พูดไม่รู้เรื่อง
  • ชอบไปเที่ยวไม่ตรงกัน
  • ดูหนังคนละแบบ หนุ่ม geek ชอบดูอะไรที่ต้องคิดเยอะๆ ส่วนผู้หญิงเราชอบดูเรื่อง comedy อะไรก็ได้ที่ทำให้ผ่อนคลาย
  • เจ้าพ่อเหตุผล
ปัญหาในการคบ Geek: พูดไม่รู้เรื่อง | ชอบไปสถานที่ไม่ตรงกัน | ดูหนังคนละแบบ | เจ้าพ่อเหตุผล via @cherryjaja #bcbk // From: @imtaiki
geek ชอบ?
  • ทุ่มสุดตัวกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
  • เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง
  • ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้าง
ข้อดีของการคบ geek เป็นแฟน
  • รอบรู้ หาอะไรก็เจอ ถามอะไรตอบได้ (คล้ายๆ อับดุลเลยอะ 555)
  • มีคนให้เราได้ดูแล เพราะ geek ไม่ดูแลตัวเอง
  • ตามใจเรา ไม่เรื่องมาก "อะไรก็ได้"
  • ไม่เจ้าชู้ รักใครรักจริง (เพราะกว่าจะได้มาแต่ละคนมันยาก 55)
ข้อดีของการคบ Geek เป็นแฟน: รอบรู้ ถามอะไรตอบได้หมด | มีคนให้เราได้ดูแล | ตามใจเรา ไม่เรื่องมาก | ไม่เจ้าชู้ via @cherryjaja #bcbk // From: @imtaiki
หนุ่ม Geek เลี้ยงไม่ยาก อย่างที่คิด #bcbk ::>_<::
หนุ่ม Geek ไม่เจ้าชู้ รักใครรักจริงค่ะ เพราะอย่างที่รู้ว่าไม่มั่นใจจะคุยกับสาวอยู่แล้ว ถ้าคบกับเราไม่วอกแวกแน่นอน #bcbk pic.twitter.com/Cp64SjKY // From @cherryjaja
จบ session นี้แบบเบาๆ น่ารักๆ ค่า XD
ปล. มีหลายคนบอกว่าเรา geek ด้วยอะ จริงอ่า? >,,<"

Developer Everyday with Google Developer #17401

session นี้คนเต็มห้องเหมือนกันค่ะ แอบดีใจนิดๆ ในฐานะหนึ่งในสมาชิก GDG ^^" ใน session นี้ @witoh เป็นคนนำเสนอแทนโอม (ที่ติดธุระ) ค่ะ เปิด session ด้วยการ show video (YouTube) รถที่ขับได้ด้วยตัวของมันเอง (Self-driven car) แล้วก็มาทำความรู้จักกับ GDG กันค่ะ
ภาพจาก https://www.facebook.com/thanyakij
กลุ่ม Google Developer (GDGs) เป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อนักพัฒนาที่มีความสนใจในเทคโนโลยีการพัฒนาของ Google ในทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Android, App Engine, Google Chrome platforms, รวมไปถึง APIs อย่าง Maps API,YouTube API และ Google Calendar API (ในอนาคตอาจจะมีอย่างอื่นเพิ่มมาอีกก็ได้เนอะ)
ส่วน GDG ในประเทศไทย มีพัฒนาการมาประมาณนี้ค่ะ
คอยติดตามพวกเราได้ที่ www.gdg.in.th นะคะ
ภาพจาก https://www.facebook.com/thanyakij
เนื่องจากเราตั้งชื่อว่า development everyday ทางเราขอนำเสนอ developer.google.com สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมทุกคนนะคะ อีกทั้งยังมีถ่ายทอดกันสดๆ แทบทุกวัน ติดตามกันได้ที่ developers.google.com/live/ ค่ะ (เอาใจนักพัฒนากันสุดๆ ไปเลย)
ภาพจาก https://www.facebook.com/thanyakij

ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ แต่ที่สำคัญคืองาน DevFest www.devfest.info ทางเราขอแง้มๆ นิดหนึ่งว่า ปีนี้มีแน่นอนค่ะ จัดที่ กทม. นี่เอง แต่จะเป็นวันไหน ต้องติดตามที่ GDG Thailand เท่านั้นนะคะ ^^ presentation รวมสิ่งที่น่าสนใจของ session นี้อยู่ที่นี่แล้วค่ะ http://goo.gl/xXeNB

และแล้วก็มาถึงความช็อคโลก เป็น session ที่ใครสักคนเขียนขึ้นมา (พี่คาดว่าคงเป็นน้องแฮม) แต่เดินมาสะกิดพี่ล่วงหน้าไม่นาน (ใน session GDG) บอกว่า "session YWC พี่พริ้วพูดกับพี่ท๊อปนะครับ" (แล้วก็หันไปเจอท๊อปกำลังยืนยิ้มแบบงงๆ อยู่เหมือนกัน) คือ...โน๊ววววววววววววววววววว มาบอกอะไรตอนนี้เนี่ย T^T พี่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยน้า No Slide No Script (สะอื้นนนนน) แต่ด้วยความอยากได้ตุ๊กตาหมี (ไม่ใช่ละ) ก็เลย เอาไงเอากัน!!!


ถ้าแค่อยากทำเว็บ แค่เขียนบล๊อกก็ได้ แต่ถ้าอยากพบชีวิตใหม่ต้องมาค่ายนี้ Young Webmaster Camp #17401


แค่ชื่อหัวข้อก็จำย๊ากยากละ 55+
session นี้ไม่มีอะไรมากเลย มาถึงก็เปิด ywc.in.th/ywc10/ เลย เว็บหากินแห่งปีของพวกเราชาวค่าย :P
เลียนแบบ GDG นิดหนึ่งตรงที่เปิด session มาก็เปิด vdo แนะนำค่ายกันก่อนค่ะ


หลังจากจบวีดีโอ ก็เป็นหน้าที่ของ Top ประธานค่ายเปิดบทนำก่อนเลยค่ะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนปากอยู่ไม่สุขเท่าไหร่ ก็เลยเสริมบ้างอะไรบ้าง แหะๆ ที่พูดไปใน session นี้นอกจากแนะนำค่ายแล้วก็เป็น inner ล้วนๆ จากเพื่อนร่วมค่าย ywc9 ไม่ว่าจะเป็น แก๊ป น้องแฮม น้องนก คิม รวมไปถึงพี่ๆ ผู้มากประสบการณ์อีก 3 ท่าน อย่างพี่เอิร์ธ ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของค่ายนี้เลยนะคะ อยากรู้ว่าพี่เค้าเจ๋งขนาดไหน @jiraz เลยค่ะ :D
ภาพจาก n'Ton-Tan ‏@Nongtarl
นอกจากค่ายนี้จะได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ด้านการทำเว็บแบบจริงๆ จังๆ แล้ว ยังได้พบกับกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่เด็กน้อยอย่างเราไม่คิดว่าจะได้เจอในชีวิตด้วยซ้ำ ได้เปิดโลก เปิดกะลาที่ครอบหัวเราอยู่ออกมา ถ้าเด็ดจริงก็มีคนจองตัวไปทำงานตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ค่ายนี้เป็นครอบครัวค่ะ connection ไม่ใช่สิ่งที่หากันได้ง่ายๆ แต่ค่ายนี้ให้เราได้แน่นอนค่ะ

ถ้าอยากเข้าค่ายนี้ ต้องทำยังไง? เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วกันเนาะ
ด้วยความที่เรียน computer science มาก็เรียนมาแต่ programming เนอะ แต่เป็นคนชอบเขียนนี่หน่า เห็น web content แล้วโดนนนนมาก แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลย แล้วจะเอาอะไรไปสมัคร? แต่ด้วยความอยากเป็นที่ตั้ง ไม่มีผลงานก็ต้องสร้างมันขึ้นมา! อ่าน รู้จักกับ IYWC9 ได้ยังไง? แล้วจะเห็นถึงความตั้งใจในการเข้าค่ายนี้ค่ะ เมื่อผ่านการคัดเลือกออนไลน์เราก็จะได้ไปสัมภาษณ์ค่ะ สายอื่นอาจจะต้องถามคนอื่นดู แต่ถ้าสาย content ปีที่แล้วมีการบ้านด้วยค่ะ อ่านได้จาก จะได้เป็น 1 ใน iYWC9 หรือไม่? พอโชว์การบ้านให้ใน session ดู ก็ได้ยินเสียงใครก็ไม่รู้บอกว่า "ถ้าพี่ไม่ติดก็แปลกแล้ว" 555+ ถือเป็นคำชมแล้วกันเนาะ 

น้องๆ หลายคนอาจจะยังไม่มั่นใจในตัวเอง หรือว่าคิดว่าไม่มีผลงาน แต่พี่คิดว่า ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรจริงแล้ว ลงทุนกับมันไปให้เต็มที่ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผิดหวังหรือไม่ เราก็ชนะคนอื่นไปได้หลายขุมแล้ว พี่เชื่อว่าพลังของความตั้งใจและลงมือทำอย่างจริงจัง สามารถทำให้เราได้ดังหวังได้ และสำหรับใครที่เป็นปี 4 อยากให้ลองจริงๆ ค่ะ เพราะเราก็สมัครตอนอยู่ปี 4 เหมือนกัน ถ้าจบไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศอย่างนี้อีกแล้วนะ บางทีโอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าคว้าได้ ก็คว้าไว้เถอะค่ะ อย่าให้มันหลุดลอยไปเลย :D

หลังจากจบ session ที่เราออกไปพูดแบบไม่ได้เตรียมตัว แล้วก็จำไม่ค่อยได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป (เอ่อม...ถ้าฟังเราไม่รู้เรื่อง เราขอโทษนะ 55+) ฝนที่ตกลงมาก็ยังไม่หยุดเสียที ก็เลยเดินลงไปตรงส่วนของ party ไปได้น้ำแดงมาแก้วหนึ่ง แล้วก็ชิ่งแว๊บ...เลยไม่ได้ดูพี่ๆ iHear เลย + อดกิน pizza ด้วย (พลาด T^T)

ยังไงก็แล้วแต่...

ขอบคุณ (ใครสักคน) ที่เป็นคนถ่ายภาพนี้ (แบบที่เราไม่รู้ตัว) ค่ะ >///<
ภาพจาก Google+ + Edited
พบกันใหม่ ปีหน้า #bcbk ครั้งที่ 4 (คาดว่าน่าจะจัดอีกแน่ๆ)

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทีมงาน @barcampbangkhen ทุกคนค่ะ


blog นี้ใช้เวลาเขียนเบาๆ วันละนิดละหน่อย  โดยรวมแล้วก็ 12 ชั่วโมงได้!!! 
เป็น blog ใช้เวลาเขียนนานมาก และยาวที่สุดละมั้งเนี่ย Orz---

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ22 กันยายน 2555 เวลา 19:15

    ละเอียดยิบเลยพี่ !!

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจในการให้บริการออนไลน์สำหรับการช่วยเหลือเงินกู้ 200,000 ยูโรเพื่อเริ่มต้นครอบครัวของฉันภายใน 24 ชั่วโมงหากคุณสนใจที่จะกู้เงินด่วนในอัตราต่ำติดต่อ Trustloan Online Services ที่: {trustloan88 @ g m a l l. c o m}

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม