จะได้เป็น 1 ใน iYWC9 หรือไม่?

หลังจากที่ entry ที่แล้วได้เล่าไปแล้วว่า รู้จักกับ IYWC9 ได้ยังไง? คราวนี้ก็มาถึงกับการเตรียมตัวไปสอบสัมภาษณ์รอบที่สองกันแล้วค่ะ

สำหรับการเตรียมตัวไปสอบสัมภาษณ์ของเราก็คือ

...ไม่มีเลยค่ะ...

เอาตรงๆคือ "ว่างเปล่า" มาก ก็พยายามอ่านบทความใหม่ๆไป เป็นการเพิ่มพูนความรู้ไปในตัว ได้เห็นแนวเขียนที่แตกต่างหลากหลาย ก็ไม่รู้นี่หน่าว่าพี่เค้าจะสัมภาษณ์อะไร เกิดถามเรื่องอะไรที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือข่าวใหม่ๆ แล้วเกิดตอบไม่ได้เลย มันก็กระไรอยู่

หลังจากที่นั่งอ่านนู่นอ่านนี่ได้ซักพัก ก็ระลึกได้ว่า "เค้าให้เอาผลงานไปโชว์ด้วย" ผลงานเราจะไปมีอาไร๊!! ก็คงไม่พ้น Blog นี้นั่นแหละ แต่ทาง iywc ได้แจ้งผ่านหน้าเว็บเอาไว้ว่า ที่ตึกไม่มี "คอม/อินเตอร์เน็ต" ให้ใช้ ... เอาแล้วไง แล้วจะ access เข้า Blog ได้ยังไงล่ะ

ก็นั่งคิดๆอยู่นาน แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจาก @k2w2yut เป็นโปรแกรมที่ Dump ข้อมูลหน้าเว็บทั้งหมดของเราออกมาได้ จากนั้นก็ทำการติดตั้งลง localhost ซึ่งปัญหามีอยู่ประการเดียวคือ ไม่สามารถเล่น clip vdo ได้ ... คิดว่าอันนี้ไม่ใช่ส่วนสำคัญ ก็เลย "ช่างมัน" ไปบ้าง คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ ^^

กลับมาถึงเรื่อง "การบ้าน" ที่ต้องทำกันดีกว่าค่ะ โจทย์ที่ได้รับมา เป็นดังนี้

หลังจากที่ใช้เวลาคิดนานมาก เขียนแล้วก็ลบ แล้วก็เขียนใหม่อยู่หลายครั้ง แต่แล้วก็ไม่สามารถเขียนให้ดีได้ จึงต้องไปสอบถามจากผู้สูงอายุจริงๆ (เรียกกันว่าเก็บข้อมูลจริง) ซึ่งก็ไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน พ่อ, แม่, ญาติๆ เรานั่นเองค่ะ จนสุดท้ายก็ได้ผลงานออกมาเป็นสองแบบด้วยกัน คือ

1 เรียงความธรรมดา (เอาให้ตรงกับ Requirement ของโจทย์มากที่สุด)

คิดว่าน่าจะเหมาะกับการลงบทความ หรืออะไรก็ตามที่ต้องการรายละเอียด

2 เป็นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ (อันนี้เนื้อหาน้อยกว่า แต่ก็ได้ประเด็นเหมือนกัน)

ส่วนตัวแล้วชอบแบบที่สองมากกว่า เพราะสามารถนำไปใช้งานจริงได้เลย แต่อันที่สองนี้ก็ใช้เวลาคิดนานกว่าอันที่หนึ่งมาก เพราะต้องคิดถึงข้อดีของแต่ละเทคโนโลยี บวกกับการนำหลักการของ Maslow เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้ดีที่สุด

เหตุผลอีกประการที่ทำชิ้นงานที่สองนี้ขึ้นมาคือ "Content" ในความคิดของเรา ต้องมีมากกว่า Text ค่ะ

ถ้าถามว่าผลงานนี้ยากที่สุดตรงไหน ก็คงเป็นตรง Keyword เนี่ยแหละค่ะ คิดอยูนานว่าจะเล่นคำอะไร โดยที่คำนั้นต้องสื่อไปยังเทคโนโลยีนั้นๆด้วย ตอนแรกกะว่าจะใช้เป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื่องด้วยกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุจำนวนมาก คงพอใจกับคำที่เป็นภาษาไทยมากกว่า

เอาเป็นว่า เราจะเล่าถึง ความหมายของแต่ละคำ ที่นำมาประกอบกับเทคโนโลยีชนิดนั้นๆให้ฟังแล้วกันนะคะ

เสาะหา (google) เป็นอันรู้กันว่า เวลาต้องการหาข้อมูลอะไร ก็ต้องใช้เจ้า search engine ตัวนี้

ไม่ว่าคุณลูกค้าของเราจะมีความสนใจในเรื่องใด สุขภาพ, สัตว์เลี้ยง, อาหาร, ยา, ฯลฯ ก็จะสามารถ "เสาะหา" เจอได้จากการใช้ tool ตัวนี้

สื่อสาร (email) สำหรับอันนี้ก็ตรงตัว ใช้ในการส่งเนื้อหา ติดต่องานที่เป็นทางการ

คนเราจะใช้ email ก็ต่อเมื่อ เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องงาน หรือเรื่องที่เป็นความลับ ไม่ต้องการเผยแพร่ออกสู่ social network เป็นการเชื่อมต่อการ "สื่อสาร" ให้ง่ายขึ้น เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก รับประกันว่า ไม่ว่าอย่างไร ข้อมูลที่ต้องการส่ง ก็จะไปถึงปลายทางอย่างแน่นอน

สายใย (skype) เมื่อลักษณะสำคัญของ tool นี้คือการโทรคุยกันทางไกล

ถ้าคนเราไม่สนิทกันก็คงไม่โทรหากัน นั่นเป็นที่มาของคำว่า "สายใย" หากเป็นคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกัน ก็ย่อมไม่อยากโทรคุยกันอย่างแน่นอน เนื่องด้วยผู้สูงอายุหลายท่าน อาจจะมีเพื่อน/ลูก/หลาน ที่อยู่ห่างไกลกัน ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ การใช้ skype จะทำให้ตอบสนองความต้องการเรื่องความเหงา/ความคิดถึงได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไป

สัมพันธ์ (facebook) เพราะ Concept ของ Facebook คือ การ Connect คนเข้าด้วยกัน

การเชื่อมความ"สัมพันธ์" เช่นเพื่อนประถม เพื่อนที่เคยทำงานด้วยกัน เข้าสู่โลกออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ก็สามารถคุยกันได้ ทำให้ผู้สูงอายุไม่ต้องรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอีกต่อไป

สำหรับ 4 คำที่คิดขึ้นนี้ อ้างอิงจาก ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ (Maslow’s Hierarchical Theory of Motivation) ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ความต้องการทางด้านร่างกาย ( Physiological needs )

2. ความต้องการความปลอดภัย ( Safety needs )

3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ( Belongingness and love needs )

4. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Esteem needs )

5. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Self-actualization needs )

โดยผู้สูงอายุส่วนมากจะมีความต้องการในด้านของขั้นที่ 1,2,3 (เนื่องจากขั้นอื่นๆได้รับไปแล้วตอนช่วงที่ยังทำงานอยู่) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้สูงอายุคือ ขั้นที่ 3 เรียกขั้นนี้ง่ายๆว่า เป็น Social need ค่ะ

(อ้างอิงจาก วิชาจิตวิทยาบริการ ที่เคยเรียนไปเมื่อตอนปี 3 เทอม 2)

งานนี้ต้องขอบคุณ "คุณแม่" ของเราเป็นอย่างมาก ที่ช่วยอ่านผลงานของเราอยู่หลาย Draft และช่วยให้คำแนะนำหลายประการ จนออกมาเป็นผลงานที่ดีที่สุดจนได้ ขอบคุณจริงๆค่ะ :)

หลังจากที่ (คิดว่า) เตรียมตัวพร้อมแล้ว ทีนี้ก็ "รอ(ให้ถึง)เวลา" สัมภาษณ์ค่ะ

_ - _ - _ - _ - _ - _

และแล้ววันสัมภาษณ์รอบสองก็มาถึง วันที่ 8 ตุลาคม 2554

วันนี้ "คุณพ่อ" ของเราใจดีขับรถมาส่งที่ SM Tower แล้วอยู่รอรับค่ะ เรามาถึงที่ลงทะเบียนตอนประมาณ 8 โมงกว่าๆ

หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย ได้คิวที่ C04 (ยังอุตส่าห์แปะ sticker เก็บเอาไว้)

ได้เจอกับ อาร์ท @NowHereArt (เพื่อนร่วมโครงการลองดีกับดีแทค 4) มาอยู่ตรงโต๊ะลงทะเบียน (เนื่องจากเป็น iywc8) หลังจากเดินไปเดินมาซักพัก มัดหมี่ @PinkuRabbit (เพื่อนร่วมโครงการลองดีกับดีแทค 4 อีก 1 คน) ก็มา ได้ลำดับ "D05" ไปครองไว้

จากนั้นก็พาเดินกันเข้าไปในห้องใหญ่ที่เค้าให้นั่งรอเรียกสัมภาษณ์ ก็มีเพื่อน (ถ้านับกันตามอายุ) หรือรุ่นพี่ (ถ้านับตามเลขค่าย) อยู่สามคนมาทำหน้าที่เป็นพิธีกรจำเป็น ดูวีดีโอแนะนำค่าย แนะนำตัว ชื่อเล่น มหาวิทยาลัย แล้วก็สาขาที่สมัคร แล้วก็ได้รู้จักกับเพื่อนมัดหมี่คนหนึ่ง ที่สมัครสาขา Content เหมือนกับเรา เค้าได้ลำดับที่ "C05"

ไม่นานนัก มด(cs) น้องจิ๊ก(cs) สองคนนี้จากสาขา design ก็มาสัมภาษณ์เหมือนกัน หลังจากนั่งได้ซักพัก โอ๋ @witoh (Marketing) และเพื่อนอีกสองคนที่อยู่สาย Programming ก็มา (ตอนหลังถึงได้รู้ว่าเป็น น้อง แฮม @ISPHamm และ เพื่อนจิม @zinuzoid) หลังจากที่สามคนล่าสุดเข้ามานั่งได้ไม่นาน เราก็โดนเรียกออกไปรอหน้าห้อง web content ก็เลยต้องบอกลาเพื่อนๆตามระเบียบ T T

สาขานี้ เริ่มก่อนคนอื่น แต่ก็ใช้เวลาสัมภาษณ์ต่อคนมากกว่าคนอื่นเหมือนกัน ตอนนั่งรอหน้าห้องสัมภาษณ์ บาล์ม @Balm_no1 (เพื่อนร่วมโครงการลองดีกับดีแทค 4 อีกแล้ว) ก็มาถึง บาล์มลงสมัครสาย Marketing และเหมือนเดิมอย่างที่สุด ที่คงความเป็น บาล์ม คือ he มาสายตลอด - -"

ณ ที่รอหน้าห้องนั้นเอง ได้คุยกันเบาๆกับ น้องบุค @neopanich C03 ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^^

ไม่นานนัก น้องบุคก็ออกมา แทคมือเปลี่ยนตัวกันเป็นที่เรียบร้อย (อวยพรกันแบบเบาๆ) ก็ได้เวลาที่เราจะขึ้นเขียงแล้วค่า

สำหรับคนสัมภาษณ์สาขา Web Content คือ พี่บอย @macroart กับ พี่โก๋ @ripmilla

จะว่าไปแล้ว เราก็เคยเจอพี่ทั้งสองคนที่งาน Barcamp Bangkhen #2 นี่หน่า... แต่ตอนแรกที่จำพี่บอยไม่ได้ เพราะตอนเข้าไปฟังพี่เค้าพูดเรื่อง MongoDB เรานั่งอยู่หลังๆห้อง มองหน้าพี่เค้าไม่ชัด ... ขอโทษค่า T T

หลังจากที่แนะนำตัวแบบคร่าวๆ แนะนำผลงานที่นำมาด้วย ซึ่งสุดท้ายพี่เค้าก็เอา Link ของ Blog เราไปเปิดเอง แต่พี่เค้าก็ดูชอบที่เรา dump ลง localhost มาเหมือนกันนะ >//< แล้วก็อธิบายการบ้านที่ได้ทำมาทั้งสองแบบ ซึ่งพี่บอยดูจะชอบแบบที่สอง พี่เค้าบอกว่า

"กลุ่มลูกค้าของเราอาจจะยังใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น แบบนี้น่าสนใจดี"

แล้วพี่ๆทั้งสองก็พาเราเข้าสู่โหมด "ถาม-ตอบ" ยอมรับว่า "หลอน" มากค่ะ

ไม่ได้ว่านะคะ แต่คำถามของพี่บอยเหมือนคัดคนเข้าทำงาน Pantip เลยค่ะ...

คำถามที่เจอ เท่าที่จำได้ มีดังนี้ค่ะ

ทำไมถึงใช้ blogspot ในการเขียน
ชอบเขียนอะไร ด้านไหน
ปกติเข้าเว็บอะไร
อยากทำงานด้านไหน
เคยเล่น Pantip ไม๊ << คำถามเปิดเขียงค่ะ

ถ้าต้องการ sort topic (กระทู้) ใน pantip จาก 10,000 ให้เหลือ 100 ต่อวัน (แล้วก็อธิบายเพิ่มเติมแบบ ต่อชม.เท่านี้ ต่อนาทีเท่านี้ เฮือก!!!) เอาแต่ที่น่าสนใจทำยังไง? "กระทู้ขยะมันเยอะ ให้คุ้ยขยะเอาขึ้นมาแต่ดีๆ" (พี่โก๋ เสริม)
ถ้าต้องการให้เราหา blogger ที่เขียนเรื่องอสังหาริมทรัพย์ เก่งๆมาเขียนให้พี่เค้า หายังไง, แล้วถ้าได้มา 100 คนแล้วจะคัดยังไงให้เหลือ 10

ห้ามถามนะว่าเราตอบอะไรไปบ้าง เพราะว่า "จำไม่ได้แล้วอะ" ณ วินาทีนั้น ตื่นเต้นสุดๆ เค้นคำตอบจนสมองแทบจะไหลออกมา + +

จนสุดท้ายมาโดนสับคอที่คำถาม

"ทำไมถึงคิดว่าควรได้รับการคัดเลือก"

อันนี้ตอบไปประมาณว่า

เอ่อ ไม่รู้ค่ะ ><" โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบเขียน เขียนใส่นู่นนี่ จนวันนึงคิดได้ว่า น่าจะเอาประสบการณ์ที่เคยเจอมาไป share ให้คนอื่นบ้าง ก็เลยเริ่มเขียน เมื่อก่อน exteen ก็เขียนแบบเด็กๆ (พี่โก๋ "แบบ diary อะนะ") ก็ประมาณนั้นค่ะ อย่างลองดีกับดีแทค ก็พูดเรื่อง กว่าจะเป็นลองดีกับดีแทครุ่น4 ไป เพราะว่ารุ่นน้องน่าจะอยากรู้ แล้วก็เขียนเพื่อ share ประสบการณ์แล้วบางทีก็ได้ feedback กลับมา ทำให้รู้ว่าคนอื่นคิดแบบไหน (ยก case เรื่อง จม.เวียนพิธีไล่น้ำ กทม.) แล้วก็ตอบอะไรอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว = ="

พี่บอย :: "วันที่ 21-24 ว่างหรือเปล่า"

เรา :: "ว่างค่ะ"

พี่บอย ::

"ยินดีด้วย คุณผ่านเข้ารอบ"

แอร๊ยยยยย บอกกันตรงๆแบบนี้เลยอ่อ >//< ก็ "ขอบคุณค่ะ" พี่ๆทั้งสองคน ^ ^ แล้วก็เอา หนังสือ smosci 53 ให้พี่โก๋ไป บอกว่า "เป็นหนังสือที่ทำเอง ทั้ง content แล้วก็ design ค่ะ" (พี่โก๋ "เก่งนะ จะทำอะไรเป็นเล่มได้เนี่ย") แล้วก็ยึดไปเลย เอาจริงๆคือหนูแค่จะให้ดู แต่เอาไปเลยก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร - -"

เป็นการจบการสัมภาษณ์ที่อารมณ์ดีแบบสุดๆ 55

ตอนเย็นของวันนั้นเองเราก็กลับมา tweet ว่า

ขอบคุณพี่ @ripmilla กับ @macroart ที่รับฟังคำตอบและการ Present ของเราอย่างใจดี แต่คำถาม web content ของพี่ ทำเอาพริ้วเกือบชอคตาย!! #iywc9

อ.ศุภเดช (@ripmilla) ก็ตอบกลับมาว่า

@priwziest @macroart เธอแค่ช็อค คนอื่นตายกันไปหลายคนแล้ว ฮ่าๆๆๆ

โหดมาก!!!!....

แล้วก็ได้เห็น Tweet ของพี่บอย @macroart อันนึง มีใจความว่า...

วันนี้เพิ่งพูดคำว่า "ยินดีด้วยครับ คุณได้ไปต่อ" แค่ 3 คนเอง ยังเหลืออีก 17 คนที่ต้องลุ้นกัน #iywc9

คือเราก็นึกว่าพี่เค้าเลือกครบแล้วซะอีก พอเห็นแบบนี้ขึ้นมา ก็แอบดีใจเล็กๆ >//< (มารู้ตอนหลังว่า น้อง @imboomz ก็เป็นอีกคนที่ได้เป็นหนึ่งในสามคน...ที่ได้ยินประโยคนี้) แต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรออกไปอยู่ดี เกิดประกาศผลขึ้นมาแล้วไม่มีชื่อเราติด จะทำหน้ายังไงล่ะ จริงไม๊?

และแล้ววันประกาศผลก็มาถึง

แล้วก็มีการประกาศตัวสำรองไว้ ในกรณีที่ตัวจริงสละสิทธิ์ค่ะ

ไม่อยากจะบอกเลยว่าดีใจขนาดไหนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น iywc9 (อย่างเป็นทางการ)

หลังจากที่ประกาศผล ไม่นานนักก็ไปโอนเงินมัดจำตามที่ได้ระบุไว้ นั่นคือ 500.52 บาท แล้วแจ้งการโอนผ่านเว็บ ... วันที่โอนเงิน เป็นวันที่ไปช่วยงาน มูลนิธิกระจกเงา (ศปภ. ภาคประชาชน) ที่ดอนเมือง เป็นวันแรกค่ะ :)

ยังไงก็แล้วแต่ entry นี้ออกจะยาว(มาก)ไปหน่อย...ถ้าใครอ่านมาจนจบนี่ต้องขอคารวะเลยค่ะ

entry หน้า เจอกันที่ค่ายนะคะ!!!

ปล. ค่ายต้องเลื่อนออกไป เพราะปัญหาน้ำท่วม แต่เราก็ยังจะไปอยู่ดีค่ะ ^^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สำหรับภาพด้านล่างนี้ เป็น Tweet ของพี่บอย @macroart ที่พูดเกี่ยวกับ คำถาม-คำตอบ การสัมภาษณ์ของสาย Content ค่ะ