[STARTUP THAILAND 2016] การเสวนา หัวข้อ "Thai Startups Lightning Talks: How do you change the world?"

"Thai Startups Lightning Talks: How do you change the world?"

ผู้ร่วมเสวนา
  • คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Founder and CEO Ookbee
  • คุณเจษฎา สุขทิศ Co-founder Finnomena
  • คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ Deep Pocket (T2P Co., Ltd.)
  • ดำเนินการเสวนา โดย คุณไผท ผดุงถิ่น Founder Builk และ ประธานสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่

session นี้เป็น session ที่ดูเหมือนจะทางการ แต่ไปๆ มาๆ ฮาซะงั้น พี่ไผทบอกว่า ผมไม่เข้าใจหัวข้อว่า เค้าให้เรามาพูดอะไร เอาเป็นว่าเราจะพูดคุยกันเหมือนคุยกันเอง แล้วบังเอิญมีคนฟัง (อีกเป็น 100) มาได้ยินละกันนะ

ที่นั่งไม่พอ หลายคนต้องยืนออกันอยู่หน้าประตู
พี่หมู Ookbee : 
เคยทำ thaibeautyclock เป็นแอพฯ เปลี่ยนรูปสาวๆ (ที่ผมกับทีมไปเดินถ่ายมาจากสยาม) ทุก 1 นาที ถ้าไม่ชอบภาพก็เขย่าให้เปลี่ยนภาพ มีทั้งฟรี และขาย 5$ วันแรกที่ขึ้นไป ขายได้ 500$ คนที่มาโหลดเป็นคน Japan (สายหื่น) จากนั้นก็เกิดไอเดียอยากทำ Marketplace ว่าจะเป็นหนัง เพลง ดนตรี หรืออะไรดี สุดท้ายก็มาจบที่หนังสือ โดย idea นั้นมาจากที่ Steve Jobs ถือ iPad 1 ขึ้นไปบนเวทีในปี 2010 ตอนนั้นผมก็ไปขายพวกสนพ.เค้าใหญ่เลยว่า "อีกหน่อยคนจะอ่านหนังสือบน iPad นะ" 

ตอนที่เปิดตัว เรามีนิตยสารบนนั้น 40 ฉบับ จากทีมงาน 5 คน ผ่านมาปีที่ 5 ตอนนี้เรามี พนง. Office 300 กว่าคน ขยายไป 5 ประเทศ มีนิตยสาร 1,500 หัว หนังสือเสียง วีดีโอ การ์ตูน ดนตรี และ category ใหม่ๆ 

มี Download ~ 9M แต่คนที่ Active จริงๆ ประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีแค่ 700K/month เราก็พยายามหาว่า trigger คืออะไร จนปัจจุบันมี คน Active 3M/month มีคนใช้สำคัญกว่าการจ่ายเงิน เราสามารถ Claim ได้ว่าตอนนี้เป็น E- book store ที่ใหญ่ที่สุดใน SEA เพราะที่อื่นมันเล็กมาก #ฮา

คุณเจ็ท Finnomena : 
ปกติจะอยู่ที่งาน money expo เพิ่งเคยมางาน startup เป็นครั้งแรก (พี่ไผท: งานนี้เพิ่งจัดครั้งแรกครับ #ฮา) ทำงานเป็น Fund manager ตั้งแต่อายุ 23 ทำหน้าที่บริหารเงิน ล่าสุดเป็นประธานการลงทุนของ CIMB (กับอะไรอีกซักอย่าง) ดูเงินประมาณแสนล้าน ทำหน้าที่ซื้อหุ้นไป 15 ปี ความรู้สึกของการคุม Power ได้ กอง Bond ที่ 120,000M เวลาผมกดซื้อที ตู้มมม ตลาดสั่นสะเทือน โห มัน Proud มาก (ไม่ใช่เงินของผมนะ) ผมเป็น CIO มา 4 ปี ลูกก็มีแล้ว ผมพบว่า คนไทยขาดผู้แนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพจริงๆ คนที่ถนัดก็ไปทำ fund manager หมด สุดท้ายก็ตัดสินใจออกมาตั้งบริษัท ตอนนี้ก็ 11 เดือนละ ดูแลเงินอยู่ 3,500M มีหลายคนมอบหมายเงินให้ลงทุนให้ แล้วก็เชิญคนในวงการด้านนี้หลายๆ คน มาตั้งเว็บ Finnomena

"ใครติดกองหุ้น health care บ้าง? ไปเจอกันที่บูธเลย" #เฮือก เค้าเอง T___T

ผมเป็น blogger อยู่ที่ fundmanagertalk.com มีคนดู ~ 600-700k คนไทย 25M คนยังไม่เริ่มลงทุน 
จากเงิน 1M ใน 30 ปีจะเป็น 10M ได้ เอาเงินในออมทรัพย์ไปลงทุน ผมอยากเห็นคนไทยรวยขึ้น
คนดูแลนักลงทุนรายใหญ่ยังไง enter (ชื่อ product) ก็จะใช้เทคโนโลยีดูแลแบบนั้นเหมือนกัน 
เราเพิ่งเข้า dtac accelerate ปีนี้ พรุ่งนี้จะเปิดบูธสัมมนาที่เป็นการยืนตลอด 3 ชม. เปิดบูธและให้ความรู้ไปด้วย

คุณนัท Deep pocket (t2p) :
เป็น software house เน้น application มีประมาณ 10 คน ทำ B2B ทำยังไงให้คนทำธุรกรรมออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต ตอนนี้มี user ~ 1M คน แล้วก็เพิ่งได้ 500 tuktuks + เบญจจินดา payment awards จาก USA

change 1
  • unbank พวก gamer เติมเงินเข้าเกมส์
  • non credit card ภูมิประเทศแถวนี้เป็นแนวนี้หมด แถวแอฟริกาก็เป็นแบบนี้
ไปทำ partner กับ master card เติมเงินเข้าไป ก็ใช้ได้เลยกับทุกที่ๆ master card ใช้ได้
ประเทศเรา 100 คน มีมือถือ 132 เครื่อง*

change 2
  • prepaid 20% ที่ตังค์หมดตอนที่จะต้องซื้อของอะไรซักอย่าง อะไรที่เป็น impulsive buy มันต้องซื้อตอนนี้ แต่ซื้อไม่ได้
ก็เลยมีระบบยืมเงินเพื่อนได้ แต่เพื่อนก็จะจำกัดการยืมเงินได้  เพื่อนในนี้เหมือนใน line freind มากกว่า (เพื่อนจริงๆ ที่เราเจอหน้ากัน) ที่ผ่านมาหนี้สูญน้อยมาก อันที่จริงเราไม่ถือว่าเป็นหนี้ด้วย (ตอนนี้คิดดอกเบี้ยไม่ได้ ผิดกฎหมาย)


ทำไมถึงคิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนโลกได้? ออกจากที่สบายมาทำไม?

พี่หมู : 
คนที่ทำ startup สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมองโลกในแง่ดีมากๆ ในระยะเวลา 4 ปี 10 เจ้าจะรอดแค่ 1 นอกจากจะเก่งแล้วต้องบ้าด้วย แล้วก็ต้องคิดว่าเราจะเปลี่ยนโลก เราเห็นปัญหาแล้วพบว่ามันใหญ่ เราจะออกไปเปลี่ยนมัน 

Ookbee เป็นแนว replacement เปลี่ยนตลาดหนังสือ จาก Offline -> Online ตอนที่ทำ ประเทศเราเป็น 0% (USA 20%) พอเห็นโอกาสก็ลงมือทำ นั่นคือความคิดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนิตยสารหลายเล่มปิดตัว คนเค้าไม่ได้มาอ่าน E-book แต่มาอ่าน Content บน internet ในฐานะที่เราเป็น provider ก็มีการทำ buffet เดือนละ 300 บาท ไม่ต้องซื้อทั้งเล่ม จากสถิติคนอ่านจะอ่านนิตยสาร Sexy ครึ่งนึง หนังสือที่เราไปซื้อที่แผงแล้วเขิน

UGC - user generated content : FB provide platform คนเข้ามาสร้าง มาใช้กันเอง 
Ookbee มีที่ทำให้คนเขียนนิยาย คนวาดการ์ตูนเพิ่มขึ้น -> แต่งนิยาย ติด coin ตอนละ 1 บาท เพิ่งเปิดบริการ 3-4 เดือน มีนักเขียนคนนึงทำเงินได้เป็นหมื่นละ 

ส่ิงสำคัญของ startup คือ Team ที่ expert ในแต่ละสาย คนเก่งเอามาอยู่ด้วยกันก็ทำได้ทุกอย่าง เปลี่ยนความคิดจาก SME -> startup แทนที่จะทำเอง ก็ให้คนอื่นมาทำ 

คุณเจ็ท : 
Finnomena มันเริ่มจากความลุ่มหลง ความรัก ผมชอบเรื่องการลงทุน เกี่ยวข้องกับหุ้นตั้งแต่ ม.ต้น อยากเป็น fund manager ตั้งแต่อายุ 17 เขียนบทความเรื่องการลงทุน ออกรายการ สอนหนังสือมาจนนับไม่ถ้วน ต้องหาตัวเองให้เจอว่าอยากทำอะไรในสายการเงิน passion ของตัวเองคืออะไร ถ้าโชคดี passion ของเรามีประโยชน์กับคนเยอะๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ 

เงินเก็บคนไทยหลังเกษียณ ส่วนมากจะใช้พอแค่อายุ 66 นอกจากนั้นต้องใช้เบี้ยยังชีพ เดือนละ 600 บาท (ตาม rate ปัจจุบัน) การลงทุนให้ประสบความสำเร็จ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนมากๆ 

คนอยากทำ startup เยอะมาก แต่เรามีความสามารถเชิงได้เปรียบมากกว่าคนอื่นยังไง? มันต้องเกิดจากสิ่งที่เราชอบ แล้วเราทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างกับมัน (ผมอยู่มา 20 ปีแล้ว) ตื่นมาก็เปิด bloomberg มันต้องลุ่มหลงมาก

คุณนัท : 
ลุ่มหลงในปัญหาที่เรามองอยู่ ลุ่มหลงที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ ผมไม่ได้ทำแค่ deep pocket ทุกวันนี้เราสร้างอะไรใหม่ตลอด ตอนที่อยู่ true พอตำแหน่งก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ มันจะหยุดนิ่ง แล้วก็จะถอยหลัง อาจจะเพราะเราขี้เบื่อ? 

ผมเป็น startup ที่มี co founder ได้โคกับเพื่อนที่เก่งอีกเรื่อง แล้วเค้าก็ enjoy ด้วย ชอบความรู้สึกวิ่งทวนน้ำ ได้สู้กับยักษ์ ผมเคยเป็น board TOT เราชอบวิธีการแบบป่าล้อมเมือง เป็น under dog 

startup ไม่ใช่แค่ idea, execute ดี มันคือการสู้เป็นพันๆ ครั้ง "ต้องรักการสู้ ต้องแก้ปัญหา"

เราจะฝากรัฐบาลอย่างไร?

พี่หมู : 
งานนี้เป็นงานครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่มีหน้าตัวเองอยู่บนโฆษณา BTS, มองจีน 10 ปี มองอินเดีย 5 ปีที่แล้ว มองญี่ปุ่น มันไม่ใช่ความฝัน  grab taxi มีคนเรียก 1.5M ครั้ง/วัน รัฐบาลมองเห็นอยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องของ  contribute 
รัฐบาลไทย ตั้งกองทุน 570M $ ต้องมีการเอาไปใช้อย่างถูกวิธี startup ไม่ต้องการเงินเยอะ ถ้าเงินเหล่านี้ถูกส่งไปให้คนที่ไม่ใช่ตัวจริง คนที่เป็นตัวจริงจะสู้ไม่ไหว การส่งเงินไปที่ๆ ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 

คุณเจ็ท : 
Agile, Sprint, Lean, uxui ผมเพิ่งเคยได้ยินตอนที่คนจาก silicon valley มาสอน มันคือการ “ทำทีละน้อย” เวลาที่คุยกับ กลต. มันจะมีสิ่งที่เราต้องทำประมาณ 188 อย่าง ก็ให้ทำทีละน้อย ช่วงเวลานึงทำอันนึง ทำให้สำเร็จทีละน้อยแล้วมันจะสำเร็จ ถ้า list มาเยอะๆ มันจะไม่สำเร็จซักอย่าง

คุณนัท :
FinTech มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเงิน เราไม่รู้เป็นอะไร กลัวล้มมาก ที่ SG ถ้ามันใหญ่ค่อยมาควบคุม แต่ถ้า TH ต้องมีข้อกำหนดก่อน ยกตัวอย่างเช่น การปลูกต้นไม้ ห้ามต้นกล้าตายเลย (เหมือนการเลี้ยงลูกแบบไทยที่ประคบประหงม) ในขณะที่ SG เค้ารอให้ต้นกล้าแทงขึ้นมาก่อน วิธีคิดมันต่างกัน สิ่งที่เราต้องระวังคือ มันจะมี startup ที่ strong มากๆ จากประเทศอื่นเข้ามาที่ไทย 

พี่ไผท: 
ปีหน้าเราจะยังได้จัดงานไม๊? #ก็ยังจะฮาปิดท้ายอีก

ช่วงแนะนำสิ่งที่น่าสนใจโดยน้องแนนและเพื่อน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม