บันทึกการเดินทาง: จุดชมวิวกิ่วลม, Pai Coffee in love, น้ำพุร้อนสันกำแพง, ข้าวซอยฟ้าฮ่าม2

25 Nov 11 

หลังจากเดินทางออกจากหมู่บ้านรักไทย ตอนเวลา 11.11 น. ก็มาแวะพักกันอีกทีที่ ครัวกรุงเทพ ตรงปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเติมพลัง กว่าจะมาถึงร้านอาหารนี้ได้ก็ปาเข้าไป 13.15 แล้ว เนื่องจากการเดินทางใน จ.แม่ฮ่องสอน เต็มไปด้วย ภูเขาและโค้ง อีกทั้งอาจเจอ "ไหล่ทางชำรุด" อยู่บ่อยๆ  ทำให้ต้องเผื่อเวลาการเดินทางเป็นจำนวนมาก

แล้วเราก็เดินทางมาถึง จุดชมวิวกิ่วลม เป็นจุดชมวิวกลางทางระหว่างเส้นทางปางมะผ้ากับปายค่ะ

เมื่อปีที่แล้วก็มาแวะที่นี่เหมือนกัน ตอนนั้นที่นี่ยังเป็นที่โล่งๆอยู่เลย ยังไม่มีร้านค้า ยังไม่มีป้ายบอกสถานที่ด้วยซ้ำไป แต่จะว่าไปตอนนั้น ก็เริ่มก่อสร้างที่นั่งชมวิวแล้วเหมือนกันนี่หน่า

ถ้าตามความคิดเราแล้ว เราชอบแบบที่โล่งๆ ไม่มีอะไรมากมายมากองแบบตอนนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ การที่มีของอะไรต่อมิอะไรมากองตรงนี้ ก็ทำให้ชาวบ้านแถวนี้มีรายได้ ยังไงซะความเจริญมันก็ต้องเข้ามาอยู่ดี จะปล่อยให้มันเป็นที่โล่งๆตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้หรอก

หลังจากที่จอดพักได้ไม่นาน ก็ออกเดินทางกันต่อ เพราะว่าหนทางยังอีกยาวไกลนัก

แล้วเราก็เดินทางมาถึง "ปาย" อีกครั้ง ก็มาที่เดิมๆอย่าง

Coffee in love ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนึง (ซึ่งเราจำชื่อไม่ได้แล้ว - -")

ไม่ว่าจะมาครั้งไหน ร้านนี้ก็คนเยอะเหมือนเดิม และเนื่องด้วยเวลาที่จำกัด ไม่สามารถรอนานได้ จึงตัดสินใจเดินทางต่อ เพื่อเดินทางเข้าสู่เชียงใหม่ (เดี๋ยวจะมืดบนเขา มันจะขับลำบาก และอาจจะเจอ "วัว" นอนขวางถนนได้ นอนมันแทบทุกโค้ง โผล่จากโค้งมาทีไร จะตกใจตายทุกที -- ประสบการณ์จากการเที่ยวครั้งที่แล้ว)

จากนั้นเราก็เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ (ที่รถอย่างติด -- เหมือน กทม. ไม่มีผิด) แล้วเลยเข้าไปที่ 

น้ำพุร้อนสันกำแพง 

กว่าจะไปถึงที่พัก ก็เป็นเวลา 18.50 เข้าไปแล้ว ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทำให้ไม่มีแรงจะทำอะไร นอกจาก กินแล้วนอนแช่น้ำแร่ในที่พักนั่นเอง 55 

------------------------------------

26 Nov 11

เป็นอีกวันที่ตื่นเช้า กะจะมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย แต่หาไม่เจอ เพราะมันขึ้นหลังภูเขาพอดี และแม้จะมีไอน้ำจากน้ำพุร้อนที่พุ่งกระจายออกมาตลอด 24 ชั่วโมง ก็ไม่เห็นจะช่วยทำให้อากาศมันอุ่นขึ้นเท่าไหร่เลย - -"

น้ำพุร้อนสันกำแพง ตั้งอยู่ใน อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลเมตร

เป็นความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่ี่มาจากความเปลี่ยนแปลงจากใต้พื้นโลกก่อกำเนิดน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิถึง 105 องศาเซลเซียส น้ำร้อนอันเดือดพล่านพุ่งขึ้นจากใต้พื้นพิภพสู่ท้องฟ้าสูงถึง 15 เมตร เป็นธรรมชาติที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก สามารถนำไข่ไก่ไปต้มกินได้ แต่เนื่องจากเราออกไปเดินเล่นตอนเช้าเกิน จึงยังไม่มีร้านค้าตั้งร้านซักกะร้าน - - อดกินไข่ต้มเลย เสียใจอะ T T

ตลอดทางเดินก็ มีธารน้ำแร่ร้อนทีไหลคดเคี้ยวมาจากตัวน้ำพุร้อนทางด้านบน โดยได้จัดแต่งธารน้ำร้อนขนาด กว้าง ราว 2 เมตร อุณหภูมิมีตั้งแต่ร้อนมากจนถึงแบบอุ่น ๆ 

หลังจากเดินไปเจอบ่อน้ำเล็กๆ ก็เลยเรียกน้องมาช่วยกันทำพิธีเรียก(อะไรก็ไม่รู้)ค่ะ 55

สองฝั่งธารน้ำไหลเป็นที่นั่งสำหรับให้นักท่องเที่ยว ได้ห้อยขาแช่เท้าในน้ำแร่เพื่อเป็นการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อและสามารถรักษาโรคเชื้อราในเท้าได้อีกด้วย (ซึ่งกว่าจะทำใจเอาขาลงไปได้ ต้องตั้งสติและสมาธิเป็นอย่างมาก) ในช่วงสุดท้ายจะเป็นน้ำค่อนอุ่นและเริ่มเย็นเขาก็จัดเป็นบ่อขนาดเล็กสำหรับเด็ก ๆ ได้ลงไปเล่นแช่น้ำกันอย่างสนุกสนาน

น้ำพุร้อนสันกำแพงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวพักผ่อนได้ตลอดทุกฤดูกาล นอกจากจะมีน้ำพุร้อนให้แช่แล้ว ยังมีดอกไม้ของเมืองเหนือให้ชมอีกด้วยค่ะ

น้ำพุร้อนสันกำแพงตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ (เมื่อก่อน "แม่ออน" เป็นกิ่งอำเภอของ อ.สันกำแพงค่ะ -- ความรู้จากพ่อ) เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 8.00 น - 21.00 น มีบริการห้องอาบน้ำแร่ สระว่ายน้ำแร่(เป็นน้ำอุ่นๆกำลังดี ที่มีความร้อนมากกว่าสระเด็ก) บริการที่พัก(เป็นห้อง หรือเป็นหลัง) ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก

http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangmai/sankampaeng-hotspring.html 

หลังจากที่เดินชมบรรยากาศและอาบน้ำแร่ร้อนๆ ที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นกำมะถันอีกครั้งก่อนจะเดินทางไปยังตัวเมืองเชียงใหม่ ก็พบว่า "หิวมาก" และ "หมดแรงมาก" แถมด้วย "มึนหัว" อีกต่างหาก เนื่องจากการแช่น้ำร้อน เป็นการสูญเสียพลังงาน(อย่างมาก)แบบไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ผอมลงหรอกนะ 55

เออ เวลาลงแช่ต้องเอา "เครื่องเงิน" ทั้งหลายออกจากตัวด้วยนะ ไม่งั้นมันจะ ดำปี๋ แบบแหวนของเรา - -" ต้องเอากลับมาขัดเลยทีเดียว ><"

ข้าวกลางวัน วันนี้เป็น ข้าวซอย ค่ะ มาเชียงใหม่ทั้งที ถ้าไม่กินข้าวซอยก็เหมือนมาไม่ถึง (ขนาดนั้นเชียว)

ข้าวซอย คืออาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย เดิมเรียกว่า "ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ" เป็นอาหารที่คล้ายเส้นบะหมี่ ในน้ำซุปที่ใส่เครื่องแกง รสจัดจ้าน มีเครื่องเคียงได้แก่ ผักกาดดอง หอมหัวแดง และมีเครื่องปรุงรส เช่น พริกผัดน้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ในตำรับดั้งเดิมเนื้อที่ใช้เป็นเนื้อไก่หรือเนื้อวัว แต่ในปัจจุบันร้านอาหารหลายแห่งได้มีการใช้เนื้อหมูแทน บางแห่งอาจเพิ่มอาหารทะเลหรือเต้าหู้เป็นส่วนประกอบ อาหารจานนี้มักไม่ค่อยมีจำหน่ายในร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จะพบบ่อยก็แต่ทางภาคเหนือของไทย

http://th.wikipedia.org/wiki/ข้าวซอย

ร้าน "ข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม ๒" 

เป็นร้านที่มาแวะกินบ่อยมาก (จนนับครั้งไม่ได้แล้ว) มาทีไร คนก็เต็มทุกทีไปสินะ!!

ร้านลำดวนเป็นร้านที่ขายแต่ข้าวซอยอย่างเดียวในสมัยก่อน  แต่ตอนนี้มีอาหารหลากหลายให้เลือก เช่น ปอเปี๊ยะ(ใส่ผักเยอะมาก -- อร่อยค่ะ) หมูสะเต๊ะ ส้มตำ(ไทย/ปู/...) เอาเป็นว่า "มันเยอะมาก" ก็แล้วกันเนอะ ^ ^ แต่นางเอกของร้านก็ยังคงเป็นข้าวซอยอยู่ดี ข้าวซอยของร้านลำดวนมีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น "ข้าวซอยเนื้อ" "ข้าวซอยไก่"  "ข้าวซอยกระดูกหมูอ่อน" "ข้าวซอยหมู"  ฯลฯ มาพร้อมกับ เครื่องข้าวซอยที่มีทั้ง  มะนาว  หอมแดง  ผักกาดดอง  สามารถกินได้แบบไม่ต้องปรุง (เพราะเราไม่กินเผ็ด --- เราว่ามันเผ็ดมากแล้วนะ)  แต่ถ้าใครชอบเผ็ด(ขาดใจ) ก็เติม "พริกแดง" หรือพริกเผาไปก็ได้ค่ะ

ที่ตั้งของร้าน

ข้าวซอยฟ้าฮ่าม เจ็ดยอดเชียงใหม่  053-212700  หรือ คุณรจิตรา  จิตธรรม เจ้าของร้าน 089-8504575 

หรือจะเป็นสาขาที่เราไปกินบ่อยๆ

"ข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม ๒"  เป็นร้านที่อยู่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ หากมาจากดอยสุเทพมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ   จะอยู่ก่อนถึงแยกที่เลี้ยวซ้ายไปอำเภอแม่ริม  อยู่ทางด้านซ้ายมือ  ตัวอาคารจะเป็นสีขาว ลักษณะแบบทางเหนือ แถมยังมีป้ายที่เด่นชัดให้สังเกตอีกด้วยค่ะ

http://www.moohin.com/trips/chiangmai/rumdoen/

Entry หน้าจะพาไปดูงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ที่เชียงใหม่ นี่แหละค่ะ :)

To Be Continued