บันทึกการเดินทาง: กทม.-แม่สะเรียง(แม่ฮ่องสอน)

23 Nov 11

  วันนี้ครอบครัวเราเริ่มเดินทางออกจาก กทม. ไปแม่ฮ่องสอนค่ะ หลังจากที่ต้องแหกขี้ตาตื่นกันตอน 03.30 ได้ เอาจริงๆคือ เมื่อคืนหลับสบายสุดๆ แต่พอช่วงก่อนนาฬิกาปลุกจะดัง เกิดอาการ ลืมตาและกระสับกระส่ายมาก น่าจะเป็นผลมาจากกังวลว่าจะตื่นไม่ทันแน่ๆ หลังจาก "วิ่งผ่านน้ำ" เรียบร้อย ก็ "คลาน" ไปขึ้นรถแล้วก็ "ออกเดินทาง" ด้วยรถส่วนตัวตอน 04.08 ค่ะ 

  การออกเดินทางตอนเช้าแบบนี้มีข้อดีอยู่อย่างคือ Toll-way ที่วิ่งออกสู่เส้นเหนือ (เส้นที่วิ่งผ่านท่าอากาศยานดอนเมืองนั่นแหละ) รถไม่ติดเลย แต่ก็มีรถให้เห็นประปรายแล้วนะ เหมือนกับรถที่จอดหนีน้ำก็มีให้เห็นอยู่เช่นกัน แต่ก็หายไปเยอะแล้ว ถ้านับจากวันลอยกระทง

  จากนั้นก็นอคเอาท์ไป ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ 06.00 ได้ ที่นครสวรรค์ (น้ำแห้งแล้ว) จำได้ เพราะว่า เห็นคันดินอยู่เกาะกลางถนน

  07.00 แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก กม.350 มุ่งหน้าสู่จังหวัดกำแพงเพชร ที่นี่บริการดีมาก เนื่องจากรถวิ่งฝ่าลมและฝูงแมลงมา เด็กปั๊มก็มาช่วยเช็ดกระจก แต่ดูเหมือนซากแมลงจะเยอะมาก สุดท้ายแล้วเค้าก็ให้เลื่อนรถ แล้วเอาสายยางมาฉีด - -" กลายเป็นที่ล้างรถไปซะแล้วแฮะ ยังไงก็ตาม ต้องขอบอกว่า นี่เป็น Service Mind ที่ดีมากๆ (ประทับใจ)

  แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ ระหว่างทางก็แวะทานอาหารเช้าที่ปั๊ม ปตท. เพราะว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง (ความจริงก็ไม่ได้ใช้พลังงานเท่าไหร่ไม่ใช่เรอะ)

  เนื่องจากเราจะไปที่แม่สะเรียงกัน คราวนี้ก็เลยเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ไปทาง แม่สอด ตาก แล้วตีเข้าแม่ฮ่องสอนเลย เป็นทา่งที่เค้าบอกกันว่า ลำบาก แต่ก็ยังอยากจะลอง (พ่อบอกว่า เบื่อเส้นทางเชียงใหม่แล้ว เปลี่ยนบ้าง)

  ระหว่างเดินทาง ได้เจอกับ จุดชมวิว "แม่สอด-ตาก" ก็เลยต้องแวะลงไปเก็บภาพและหาอะไรดื่มกันซักหน่อย

Review กาแฟ จากพ่อและแม่
"ชงไม่อร่อยเท่าไหร่ ชงเข้มมาก เหมือนคนชงไม่กินกาแฟ"
สรุปคือ ที่นี่วิวผ่าน แต่รสกาแฟไม่ผ่านนะคะ :(


  แล้วก็แวะเวียนเข้าไป "ตลาดริมเมย" (สุดประจิมที่ริมเมย) เป็นตลาดที่ติดกับแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ กำลังคิดว่า ถ้าเดินลุยไปก็น่าจะได้อยู่ แต่ก็ไม่กล้า เพราะว่า กลัวโดนยิงหัวกระจาย เพราะว่าเป็นการข้ามฝั่งไปประเทศพม่า ซึ่งตอนนี้ สะพานมิตรภาพไทย-พม่าก็ยังไม่เปิดให้บริการนะคะ


  ตลาดริมเมย เป็นชุมชนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเมยในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรงข้ามกับอำเภอเมียวดีของสหภาพพม่า ก็คล้ายๆกับตลาดชายแดนทั่วไป คือจะมีคนฝั่งของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายของ ซึ่งคนขายในตลาดริมเมย ส่วนมากแล้วเป็นคนพม่าแน่นอน สังเกตได้จากการพูดไทยสำเนียงพม่า ตามด้วยการปะแป้งสีขาวๆเหลืองๆบนหน้าด้วย ซึ่งเราคิดว่า น่าจะเป็นดินสอพองของเค้าแหละ 

  แถมบางร้าน ลูกจ้างที่เฝ้าร้านยังพูดไทยไม่ได้อีกต่างหาก เป็นคนเฝ้าอย่างเดียวจริงๆ พอถามราคา เค้าก็บอกว่า ให้รอแป๊บนึง แล้วก็วิ่งไปหาคนที่พูดได้มา คนที่สองที่มาก็พูดไม่ได้อีก ต้องวิ่งไปตามคนที่สามมา การจะซื้อของแต่ละที มันลำบากไปไม๊นะ - -"

  ของที่นี่มีหลายร้าน แล้วก็มีหลายคุณภาพเช่นกัน ถ้าอยากได้ของดี ถูกใจ ก็ต้องเดินเลือกซื้อเอาหน่อย ไม่งั้นจะเจอของกากๆได้ (งานไม่ละเอียด แถมโก่งราคาอีกต่างหาก)


  หลังจากเดินดูของได้ซักพัก ก็เดินทางต่อไปยังเส้นทางอันมหาโหด (เวอร์ไปนะ) ความจริงก็คือ เป็นเส้นที่ไม่ค่อยมีคนวิ่ง เนื่องจากติดกับชายแดนพม่า เป็นที่อยู่อาศัยของกะเหรี่ยงทั้งหลาย ถ้ามาตอนบ่ายๆ จะไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางนี้ เพราะว่าเสี่ยงในการโดนปล้นได้ (ขนาดไปตอนกลางวันยังหลอนเลย)

  เส้นทางที่ใช้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีการทำถนนอยู่เป็นช่วงๆ แถมด้วย "ไหล่ทางพัง" "ขอบทางชำรุด" เป็นอะไรที่หลอนมาก ไม่สามารถทำเวลาได้่เลย ข้างทางก็มีแต่ ป่า ต้นไม้ ป่า ต้นไม้ ๆๆๆ ไม่มีร้านอาหาร หรือห้องน้ำอะไรเลย T T มื้อกลา่งวันเลยต้องกินขนม - นม - ผลไม้ ที่เตรียมไปจากบ้าน 

  แต่พอเ้ข้าสู่เขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ได้เจอกับ ด่านตรวจด่านหนึ่งที่มีห้องน้ำพอดี เลยได้ขอใช้บริการหน่อย เพราะว่า ไม่ไหวแล้ว - -* และก็พบว่า ห้องน้ำสะอาดมาก -/\- (คารวะ) แดดกำลังเปรี้ยง แต่ก้อนเมฆสวยดี


หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง นั่นคือ "แม่สะเรียง" 

แผนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นอำเภอแม่สะเรียง

  อำเภอแม่สะเรียง เป็นหนึ่งใน 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองแม่สะเรียงมีชื่อในประวัติศาสตร์ว่า เมืองยวมใต้ หรือ เมืองยวม เคยเป็นเมืองหน้าด่านที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของอาณาจักรล้านนา  

  อำเภอแม่สะเรียงเป็นอำเภอชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่าทางทิศตะวันตกตลอดแนวระยะทาง 166 กิโลเมตร มีแม่น้ำสาละวินกั้นเขตแดนระยะทาง 101 กิโลเมตร มีสันเขาขุนแม่ลอง เสาหินดอยผาตั้ง เป็นเส้นกั้นเขตแดนทางบกระยะทาง 65 กิโลเมตร สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นป่าเขาทุรกันดาร มีพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800-1,200 เมตร(Highland) มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี มีแม่น้ำไหลผ่านจำนวน 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำยวม แม่น้ำแม่สะเรียง และแม่น้ำสาละวิน (แม่น้ำคง) ที่ไหลจากทิเบต ประเทศจีน

ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/แม่สะเรียง


  เราจอดรถตรงที่พักเวลา 16.08 พอดี (เลข 04.08) เหมือนตอนที่รถออกจาก กทม. เลย ช่างเป็นอะไรที่บังเอิญมาก 55+ ที่พักของเราอยู่ริมแม่น้ำยวม ชื่อ Sunset Resort ซึ่งเปิดเป็นร้านกาแฟ Black Ant Coffee ด้วย มาถึงตอนบ่ายแบบนี้ แดดแรงมาก และอากาศก็ไม่ได้เย็นเท่าไหร่ ออกจะร้อนด้วยซ้ำไป 

แต่พอพระอาทิตย์เริ่มตกเท่านั้นแหละ อากาศเย็นก็เริ่มเข้ามาแทนที่ แบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย


น่าิเสียดายที่พระอาทิตย์แอบไปตกหลังเขา เลยไม่ได้เห็นแสงสะท้อนลงน้ำเท่าไหร่เลย ><"


แล้วคนในพื้นที่ (อาบุญชู กับ อาผู้กอง) ก็พากิน "เขียดแลว ทอดกระเทียม"

Limnonectes blythii.jpg

  กบทูด หรือ กบภูเขา หรือ เขียดแลว  เป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในที่พบได้ในประเทศไทย อยู่ในบริเวณลำธารและน้ำตกบนภูเขาในป่าลึก พบที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยะลา และจังหวัดกาญจนบุรี ขนาดความยาวประมาณ 10-28 เซนติเมตร ปัจจุบัน เขียดแลวเป็นสัตว์ที่หายากชนิดหนึ่งของประเทศไทย อันเนื่องจากสภาพแวดล้อมและถิ่นที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป จึงมีการส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจ โดยทางกรมประมง เช่น สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจได้แล้วในขณะนี้ 

ประโยชน์

เนื้อมีรสชาติดี อร่อย ใช้ปรุงอาหารได้ 

http://th.wikipedia.org/wiki/กบทูด
http://www.ku.ac.th/AgrInfo/thaifish/aquatic/aq216.html

  มันดีตรงที่เพาะพันธุ์ได้ และเอามาเป็นอาหารได้นี่แหละ คนเรานี่ก็ช่างสรรหาของกินจริงๆ หลังจากที่ชิมไปหน่อยเดียว(จริงๆ) เราว่า มันก็เหมือนกับ ไ่ก่แหละ แต่ว่าเนื้อนุ่มกว่า แล้วก็ไม่มีกลิ่นคาวมากเหมือนกบ เนื่องจากมันเป็นกบภูเขาและหายาก เราคิดว่า คนเลี้ยงเป็นน่าจะมีไม่มาก ทำให้มันยังอร่อยอยู่ -- เกี่ยวไม๊???


โดยส่วนตัวแล้วชอบท้องฟ้าตอนนี้ เหมือนระบายสีน้ำเลย ><"

แล้วเราก็ย้ายไปทานอาหารเย็นที่ร้าน Easy ครัวน้องศรี (ถ้าจำไม่ผิด) ที่นี่อากาศเริ่มเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว


ตอนแรกก็นึกว่าหมอก ที่ไหนได้ ชาวบ้านแถวนั้นเค้าเผาไฟต่างหาก ควันเลยลอยมา

"หมอกและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้"

หลังจากทานอาหารเย็นกันแบบเอร็ดอร่อย ก็กลับมาที่พัก เพราะว่าหมดแรงกับการเดินทางมาทั้งวัน ขอภาพที่พักซักภาพก่อนนอนแล้วกันนะคะ :)


To Be Continued

ความคิดเห็น

  1. เคยไปส่งเจ้านายที่อำเภอแม่สะเรียง ที่โรงเรียนมัธยมสังวาลย์ แวะชมถ้ำหินย้อยที่สวยงามที่สุด ขึ้นเขาอย่างเสียว กล้วยน้ำว้าหวีอย่างใหญ่ หวีละ 5 บาท มีเสื้อที่ระลึก 1,864 โค้งขายจำนวนมาก มีทั้ง แขนสั้น 100 บาท แขนยาว 150 บาท เสียดายไม่เห็นเลยไม่ได้ซื้อแขนยาว ขากลับผ่านข้ามดอยอินทนนท์ ทางวกกลับไปมา บนยอดเขา น่าเสียวมาก เสียดายไม่ได้ไปริมเมย เมืองปาย ตั้งใจว่าจะไปถึงตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เลยไป ดอยไตแลงของเจ้ายอดศึก แต่เมืองยอน แต่คงไม่ไป ว้าแดง เหว่ยเซีียะกัง บังรอน สุรชัย เงินทองฟูผลิตยาบ้า ส่งเข้าไทย และทั่วโลก โดยพม่าสนับสนันให้ตั้งเมืองยอนเป็นเมืองหลวงที่รอยต่อ เชียงใหม่ เชียงราย จีนแดงส่ง ฮ. ติดอาวุธมาให้ว้าแดง ทีมีว้าแดงกว่า 1.5 แสนคน

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม