สร้างฝายชะลอน้ำ ชะลอรัก(ษ์) กับ อาสาสมัคร อนุรักษ์สิ่งดีงาม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสร้างฝายชะลอน้ำ ชะลอรัก(ษ์) กับ อาสาสมัคร อนุรักษ์สิ่งดีงาม 

รู้จัก Event นี้ได้ยังไง?

ต้องเริ่มที่น้องปอปอย เอา Link ของเว็บไซต์มาแปะใน FB Group YWC Outing พอเราเห็นว่าเป็นกิจกรรมไปสร้างฝายเท่านั้นแหละ ก็ใจง่ายเลย รีบเช็ค Calendar ของตัวเอง เห้ย ว่าง! อะ ลงชื่อๆ ความใจง่ายนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง รวมสมาชิกจากแก๊งไปได้ถึง 7 คน #เปิดเพลง "คนใจง่าย" ประกอบการอ่าน - นั่นคือเมื่อวันที่ 15 มกราคม

ผ่านไป 3 วัน ก็กดโอนเงิน คนละ 420 บาท เท่านั้นเอง! ซึ่งเงินนี้เป็นค่าเดินทางด้วยรถบัส (ร้อน) อาหารกลางวัน (ข้าวเหนียว หมู/ไก่ ห่อใบตอง) น้ำเปล่า 1 ขวด

แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว (เกือบลืมไปแล้วว่าลงทะเบียนไว้ ต้องขอบคุณ เก้าคุง ที่มาย้ำเตือน)

ตัดภาพมาวันที่ 5 มีนาคม เวลาดึกดื่น... ทั้ง 7 หน่อ เปิด Chat Line คุยกันเพื่อเตรียมข้าวของ อุปกรณ์ส่วนตัวไปทำฝาย เดี๋ยวนะเดี๋ยว มีเวลากันตั้งนาน มาเตรียมอะไรกันตอนนี้ ได้ข่าวว่าต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อไปให้ทันลงทะเบียน 06.00-07.00 น. ใครได้นอนเกิน 6 ชม. บ้าง? ตอบเลยว่า... ไม่มี! 555+

นี่คือ Brief อย่างละเอียด (มาก) ที่ได้รับมาทางอีเมล

ทางทีมงานรับทราบการโอนเงินครับผม.

** รายละเอียดต่างๆ ในการเข้าร่วมกิจกรรม **

โครงการ ฝายสร้างคน คนสร้างฝาย 
วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ตั้งแต่เวลาเวลา ๐๗.๐๐ น. - ๒๑.๓๐ น. 

[ สถานที่ ] พื้นที่ชุมชน วัดลิ้นช้าง ต.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

[ ข้อแนะนำ ]
๑. นอนหลับพักผ่อน เตรียมร่างกายให้พร้อม << แค่ข้อนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว!!! 
๒. มาด้วยความสุขและสนุก ให้เลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเรา ทำเท่าที่เราทำไหว (ขอให้ทำด้วยหัวใจ ทำอะไรก็มีความสุข ) 

[ สิ่งที่อาสาสมัคร ทุกท่านต้องเตรียม มา ]

๑. เตรียมกายและใจที่พร้อมจะเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดย วางความเป็นเธอ ความเป็นฉันลง  ให้เหลือไว้เพียงความเป็นเรา (เรา = การมีปฏิบัติสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง)
๒. ขนม ๒ ชิ้น (ซึ่งราคาต่อชิ้น ไม่ควรเกิน ๑๐ บาท นำมาใช้ทำกิจกรรมบนรถ อาจเป็น ขนม นม เครื่องดื่ม อะไรก็ได้ ) << เจอกัน 7E พรุ่งนี้ค่ะ!
๓. เขียนเรื่องราวของตัวเอง ๒ บรรทัด ใส่กระดาษ ไม่ต้องลงชื่อ 
แล้วม้วน มายื่นให้ทีมงานที่โต๊ะลงทะเบียน (แนะนำให้เขียนภาษาไทย ด้วยลายมือที่อ่านง่าย) << เขียนบนรถพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ ปากกา กระดาษ เตรียมไปพร้อม (นี่คือเรียกว่า พร้อม? 55+)
๔.ชุดลุยงาน/ชุดเปลี่ยน  เพื่อความสบายตัว 
๕.หมวกกันแดด  (ใส่หมวกกันแดดมาด้วย เพราะจะมีงานทั้งในที่ร่มและ สลับพื้นที่กลางแจ้ง )
๖.รองเท้าหุ้มข้อ  (เดินป่าเพื่อความปลอดภัยของเท้า )
๗. น้ำดื่มพกพา /ขวดเติมน้ำ ( อากาศร้อน ควรจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสมดุลของร่างกาย)

[ ความตั้งใจ ] 

๑. กิจกรรมเชิงอนุรักษ์ 
๒. แบ่งกลุ่มสร้างฝายชะลอน้ำ 
๓. สร้างพื้นที่งานอาสา ให้คนหันด้านดีออกมาพัฒนาร่วมกัน 
๔.กิจกรรมกลุ่มเชิงกระบวนการ รับฟังพูดคุย สร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจร่วมกัน 
๕. งด!!! สุรา สิ่งมึนเมา อบายมุข ทุกประเภท ตลอดงาน (สำคัญ)

กรุณามาขึ้นรถบัสให้ตรงเวลาที่กำหนดนัดหมาย หากมาช้า ทางทีมงานขออนุญาตไม่รอเพื่อส่วนรวม 

[ กำหนดการ ] 

วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

เวลา ๐๖.๐๐ น.- ๐๗.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าร่วมกิจกรรม บริเวณ ร้าน Cafe' Amazon ใน ปั๊ม ปตท. สนามเป้า (ห่างจาก BTS สนามเป้า ๕๐๐ เมตร) ) 

อาสาสมัครที่รอขึ้นรถจุดที่ ๒ ป้ายรถเมล์หน้า big c เซ็นทรัลพระราม ๒ รถจะไปถึงประมาณ เวลา ๐๗.๓๐ น. เมื่อรถบัสถึงแล้วจะมีทีมงานลงไปเรียนขึ้นรถ

เวลา ๐๗.๐๐ น.- ๑๐. ๓๐ น. ออกเดินทาง โดยรถบัสพัดลมมุ่งหน้าสู่ วัดลิ้นช้าง ต.หนองหญ้าปล้อง เขตอุทยานแห่งชาติ จ.เพชรบุรี 
เวลา ๑๐.๓๐ น. - ๑๑.๔๐ น. กิจกรรมสัมพันธ์แบ่งกลุ่ม เตรียมความพร้อม 

เวลา ๑๐.๔๐ น. - ๑๑.๐๐ น. ฟังบรรยายวิธีการรักษาธรรมชาติและดูแลต้นน้ำของทางวัดลิ้นช้าง 
เวลา ๑๑.๐๐ น. - ๑๑.๓๐ น. ออกเดินทางเข้าพื้นที่ โดยรถกระบะ ชาวบ้าน 

เวลา ๑๑.๓๐ น. - ๑๒.๓๐ น. พักรับประทานอาหารกลางวัน เติมพลังก่อนใช้แรง (สวัสดิการ ๑ มื้อ ข้างเหนียวหมู /ไก่ ห่อใบตอง ) กินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก 

เวลา ๑๒.๓๐ น. - ๑๔.๓๐ น.ปฏิบัติภาระกิจ สร้างฝายชะลอน้ำ

เวลา ๑๔.๓๐ น - ๑๕.๓๐ น. เดินทางกลับสู่ วัดลิ้นช้างทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย 
เวลา ๑๕.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น.สรุปกิจกรรม สร้างพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกัน 

เวลา ๑๖.๐ น. - ๑๖.๓๐ น ร่วมทำบุญถวายสังฆทาน นั่งสมาธิภาวนาถวายความดีเป็นพระราชกุศล และ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ถวายพระพร
เวลา ๑๖.๓๐ น. - ๒๑.๓๐ น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย 

(กำหนดการ อาจมีการปรับเปลี่ยน ตามความเหมาะสม)

หลับไปหนึ่งเฮือก ณ เวลาตี 5 ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม

พอนาฬิกาปลุกดังปุ๊บ เราก็เด้งตัวขึ้นมาจากเตียงปั๊บ ถามว่าสะลึมสะลือไม๊ ก็มากอยู่ ตอนนี้ใจขับเคลื่อนร่างกายแทนแล้วค่ะ รีบอาบน้ำแต่งตัว หยิบข้าวหยิบของ โดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปปากซอย แล้วโบกรถ Taxi ต่อ ใช้เวลาเดินทางจากบ้าน ถึง ปตท. สนามเป้า แค่ 25 นาที เท่านั้น! โอ้โหยยยย ทำไม่ได้นะคะวันทำงานเนี่ย คูณไปเลยสองเท่าเป็นอย่างต่ำ

ไปถึงปั๊ม ปตท. ตอน 06.35 น. เจอหยก (และมาม๊ากำลังเติมน้ำมันอยู่พอดี) เราสองคนก็เลยไปลงทะเบียนก่อน แล้วก็ได้ Bus1 มา แวะซื้ออาหารเช้า ของกินต่างๆ ณ 7E แล้วก็เอาของขึ้นไป Bus1 เรียบร้อย รอเพื่อนอีก 5 หน่อ

พอเดินลงมาก็ได้เจอกับ เก้าคุง ก็เลยพาไปลงทะเบียน แล้วก็ลงเผื่ออีก 4 หน่อที่ยังมาไม่ถึงด้วยเลย พี่อารีย์ (คนดูแลกิจกรรม) เห็นว่ามากันเยอะ (พี่เค้าคงมองทะลุเห็นถึงความโหวกเหวกโวยวายของพวกเรา) ก็เลยไล่ (ให้เปลี่ยน) ไป Bus2 แทน อะได้ค่าาาาา

เรากับหยกก็ไปเอาของที่ Bus1 แล้วย้ายไป Bus2 แทน ซึ่งมาได้ที่นั่งค่อนมาทางท้ายรถเลยทีเดียว
กลับลงมาที่ 7E อีกรอบ คราวนี้ เจอ ต้น น้องปอย (ที่เลยไป BTS อนุสาวรีย์ชัย แล้วนั่งย้อนกลับมา... ตื่นค่ะลูก ตื่น!!) และ จิม

เหลือคนเดียวละค่ะ... เกือบ 7.00 น. เห้ย ทำไม แบงค์มันเงียบไปเลย ไม่ส่งเสียงมาใน Line เราเลยตัดสินใจโทรหา...

เฮลโหล๋วววววววว อะไรคือการที่รถบัสนัดออกเดินทาง 7.00 น. แต่เพื่อนเรากำลังจะออกจากที่พัก (แถวเซ็นทรัล ลาดพร้าว) ตอน 7.00 น. ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ - -" แว๊นมาค่ะ แว๊นนนนน เรียกพี่สุชาติมาเลยค่ะ ณ เวลานี้ BTS ไม่ทันอีกต่อไป (ดีที่พี่อารีย์ Delay การออกเดินทางให้ 15 นาที)

เอาล่ะค่ะ ทั้ง 6 หน่อขึ้นรถไปรอลุ้นกัน ว่าเพื่อนจะตกรถหรือไม่!

พอได้เวลา รถก็เหมือนจะเคลื่อนตัว... เลยบอกพี่โจ้ที่ดูแลรถว่า รอเพื่อนอีกคนนึง แป๊บค่ะ แป๊บบบ เลย BTS สนามเป้ามาแล้ว เหลือบไปเห็นพี่สุชาติที่มีแบงค์ซ้อนท้ายเลี้ยวแว๊บบบบเข้ามาจอดในปั๊ม กดโทรศัพท์โทรหาแบงค์ทันทีค่ะ! วิ่งค่ะ วิ่งตรงมาค่ะเพื่อน ให้ไวค่ะ ทั้งคณะเค้ารอแกคนเดียวล้าววววว โอ๊ยย มีเรื่องให้ตื่นเต้นตั้งแต่เช้าเลยนะ

มาครบแก๊งแล้ว (cr: ต้น)

แล้วรถบัสทั้งสองคันก็เคลื่อนขบวน มุ่งหน้าไปรับเพื่อนอีก 1 จุด ณ พระรามสอง เวลานี้ทำไร?? เขียนกระดาษเรื่องราวของตัวเองค่ะ เขียนให้ไว กลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายอีกแล้ว ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ T^T

จากนั้นก็กินอาหารเช้า แล้วก็จะหลับ... จอด... แวะรับเพื่อนที่พระรามสอง ซึ่งเพื่อนทั้งหมดขึ้น Bus1 เอาล่ะ กิจกรรมเริ่ม! ม่ายยยยย ยังไม่ได้นอนเลย = ="

กระดาษแผ่นนั้น ที่เราเขียนลงกระป๋องไป เค้าให้ทุกคนจับขึ้นมา 1 ใบ (ถ้าจับได้ของตัวเอง ต้องเปลี่ยนนะฮะ คล้ายๆ กับเล่น Buddy นั่นแหละ)

กิจกรรมมีอยู่ว่า ให้แนะนำตัวด้วยชื่อเล่น มาจากไหน (จังหวัด หรือ ถ้ามาจาก กทม.​ ก็เขตอะไร) ความคาดหวังที่มาทำฝาย ท่าประจำตัว อ่านกระดาษที่เราจับได้ แล้วก็แลกขนมกันทั้งคนที่จับได้เรา แล้วก็คนที่เราจับได้

ท่ามีความสุ่มเสี่ยงในการโดนเรียกไปปรับทัศนคติ 555+ (cr: ต้น)

ด้วยความที่นั่งท้ายรถ ไมค์บนรถก็ติดๆ ดับๆ แต่ก็ตั้งใจฟังนะ (อาจจะจดชื่อใครผิดไปบ้าง โปรดอภัย) สำหรับ Bus2 มีสมาชิก ดังนี้
  1. พี่อ๋อง พระขโนง 
  2. หมิม ปี4 ศิลปากร
  3. ชมพู่ หลักสี่
  4. เฟม สวนหลวง
  5. แนน ทำงานด้าน IT
  6. ส้มโอ๊ว ปทุมวัน
  7. ต้นฝ้าย นครนายก
  8. พี่เวต ลำลูกกา (เคยมาสร้างฝายหลายรอบ)
  9. ทราย - คนนี้จับได้เรา
  10. พริ้ว
  11. โจ้ หลักสี่ - คนนี้เราจับได้
  12. ปลาย มีนบุรี
  13. เฟิร์น บางพลี
  14. เมย์ สมุทรสาคร
  15. แด่นนี่ นครนายก
  16. แวว
  17. เอ้ ห้วยขวาง
  18. กุ้ง
  19. จู๊ด เรียนโรงแรม ปี2
  20. แบงค์
  21. ปุ้ย ป้อมปราบ
  22. หยก
  23. น้องปาล์ม มีนบุรี (อาสา รอบที่9)
  24. มีน นครปฐม
  25. หญิง อุดมสุข
  26. จูน ป้อมปราบ
  27. ต้น
  28. ส้มเซี่ยว
  29. แอน ป้อมปราบ
  30. พี่หมวย หลักสี่
  31. ต้อง นนทบุรี (คนนี้ วิ่ง half มาราธอน)
  32. เก้า
  33. กอล์ฟ นครปฐม
  34. จิม
  35. ปอย
  36. นก ลาดกระบัง
กว่ากิจกรรมบนรถจะจบก็ถึงเพชรบุรีละ อ่ะ แวะปั๊ม ปตท.ใหญ่ๆ ~ 15 นาที แล้วก็เดินทางต่อ คือมาวูบหลับตอนจะถึงวัดไปนิดนึง พอเข้ามาเจอทางลูกรัง ดินแดง ฝุ่นตลบอบอวนเท่านั้นแหละ ตื่นเลยยยยย แม่เจ้าาาา นอกจากแดดจะแรง อากาศจะร้อนมาก ความแห้งแล้งยังเป็นที่ประจักษ์ชัด เส้นทางเข้าวัดมีความกันดารและไกลมาก แล้วสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่ายก็... No Service สวัสดีโลกออฟไลน์

แล้วเราก็เดินทางมาถึงวัดลิ้นช้าง!

แวบแรกที่ก้าวลงแตะพื้นดิน แล้วตาได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบตัว เห้ยยยยยยยย ทำไมศาลาวัดมันคุ้นแบบนี้ ทางเดินขึ้นศาลาก็คุ้นมาก เหมือนเคยเห็น เหมือนเคยมา หรือตอนเกือบสี่ปีที่แล้วที่มาทำฝายครั้งแรกกับ THNIC มาที่นี่นะ? (ประเด็นคือ จิม ก็คุ้นมาก แต่เราทั้งสองคนก็ไม่สามารถฟันธงได้) เรื่องของเรื่องคือ คราวนี้เราไปนั่งทำกิจกรรมกันที่ลานกว้างๆ เขียนว่าเป็นโรงทาน แต่เหมือนเป็นลานกิจกรรมที่มีหลังคามากกว่า (ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้มาตรงนี้ไง ตอนนั้นนั่งที่ศาลา) แล้วตอนนั้นก็นั่งรถตู้มา จำได้ว่าฝุ่นควันตลบ แต่มันก็ไม่ Real แบบนั่งรถพัดลมมาแบบนี้นี่หน่า คือเคยเขียน Blog ตอนนั้น อยากเปิดดู แต่ก็ No Service ไง... อยู่กับความคลางแคลงใจไปก่อนก็ได้ T T

เมื่อรวมพลกันครบที่โรงทาน ก็เริ่มการแบ่งกลุ่ม โดยให้จับคู่ (ที่ไม่ได้มาด้วยกัน) ทำความรู้จักกันเล็กน้อย แล้วก็จับคนที่ป้ายชื่อ เขียน/สี แปลกประหลาดออกไปเต้น กิ่งก้านใบ/ไก่ย่างพิการ จากนั้นก็ เป่ายิ้งฉุบ (คนแพ้ต่อท้าย) อย่าถามว่า ชนะไม๊ ... เล่นเกมนี้ทีไร ไม่เคยชนะ โอเคนะ = ="

เป่าๆๆๆ ต่อหางแถวกันไปเรื่อยๆ จนได้ประมาณ 8 คน ก็ให้จับกลุ่มแล้วนั่งลงเป็นวงกลม ทำความรู้จักกัน เอาป้ายชื่อออกมา เอาสีชอล์กมาวาดเป็น Robot คิดชื่อประจำกลุ่ม คิดท่าประจำกลุ่ม แล้วก็ Present เรียงกลุ่ม ซึ่งสมาชิกกลุ่ม Super Colourful ของเราประกอบไปด้วยรายชื่อต่อไปนี้
  1. พริ้ว
  2. พี่หมวย
  3. พี่กุ้ง
  4. (พี่)ป่าน
  5. (พี่)หญิง
  6. พี่จุ๋ม
  7. พี่อ๋อง
  8. น้องจู๊ด

กลุ่มทั้งหมด ประกอบไปด้วย (ถ้าจำชื่อผิด ขออภัย)
  • Lady Tree
  • ซูเปอร์ตีนไก่
  • ช้างหรรษา
  • Stronger
  • Super Colourful
  • Lobo
  • Smile Bot
  • Wolf Bot
  • Challenger Hybrid
  • สมถุย
#ทีมพี่อ๋องค่ะ สุดท้ายก็แพ้เค้า...

แล้วก็แบ่งกลุ่มอีก แบ่งไปแบ่งมา จนได้ครบ 3 กลุ่ม เพราะต้องสร้างฝายทั้งหมด 3 ฝาย ซึ่งในแต่ละกลุ่ม แบ่งย่อยเป็น 3 ทีม คือ ทีมกั้นคอก ทีมขุดดิน/ทรายใส่กระสอบ (เราอยู่ทีมนี้) แล้วก็ ทีมหาหิน (มาถม) จากนั้นก็มีท่านรองเจ้าอาวาสมากล่าวทักทาย


จากนั้นก็แยกย้ายไปเปลี่ยนชุด ออกเดินทางไปลุยงานสร้างฝายกัน!

สภาพก่อนทำฝาย (cr: ต้น)

ฝายที่เราทำวันนี้มีชื่อว่า ฝายแม้ว 

ฝายแม้วเป็นฝายชะลอน้ำกึ่งถาวรประเภทหนึ่ง ประเภทเดียวกับฝายคอกหมู โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่นกิ่งไม้ ก้อนหิน เพื่อกั้นชะลอน้ำในลำธาร หรือทางน้ำเล็กๆ ให้ไหลช้าลง และขังอยู่ในพื้นที่นานพอที่จะพื้นที่รอบๆจะได้ดูดซึมไปใช้ เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้เกิดความชุ่มชื้นมากพอที่จะพัฒนาการเป็นป่าสมบูรณ์ขึ้นได้ ฝายแม้วยังอาจใช้เพื่อการทดน้ำ ให้มีระดับสูงพอที่จะดึงน้ำไปใช้ในคลองส่งน้ำได้ในฤดูแล้ง โครงการตามแนวพระราชดำรินี้ได้มีการทดลองใช้ที่ โครงการห้วยฮ่องไคร้ จ.เชียงใหม่ และประสบผลสำเร็จจนเป็นตัวอย่างให้กับโครงการอื่นๆต่อมา

ฝายชะลอน้ำสร้างขวางทางไหลของน้ำบนลำธารขนาดเล็กไว้ เพื่อ
  • ชะลอการไหล
  • ลดความรุนแรงของกระแสน้ำ
  • ลดการชะล้างพังทลายของตลิ่ง
  • เมื่อน้ำไหลช้าลง ก็มีน้ำอยู่ในลำห้วยนานขึ้น โดยเฉพาะในหน้าแล้ง
  • ช่วยดักตะกอนที่ไหลมากับน้ำ ลดการตื้นเขินที่ปลายน้ำ ทำให้น้ำใสมีคุณภาพดีขึ้น
  • ช่วยให้ดินชุ่มชื้น ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
  • สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ได้อาศัยน้ำในการดำรงชีวิต คืนพืชแก่เนินเขา/ภูเขาหัวโล้น
  • ดินชื้น ป่าก็ชื้น กลายเป็นแนวกันไฟป่า ลดความรุนแรงของไฟได้
อ่านต่อที่: โครงการฝายชะลอน้ำ

พวกเราเดินทางด้วย รถกระบะล้อสูง และ รถบัส (คันสอง) ซึ่งคนที่เดินทางด้วยรถบัสเนี่ย รถจะไปจอดที่โรงเรียนซึ่งไม่ไกลจากวัด แล้วต้องเดินเท้าเลาะเข้าไปอีกนิดหน่อย (นั่นเป็นสาเหตุที่ยังจำไม่ได้ว่าเคยมาที่นี่หรือเปล่า เพราะคราวที่แล้วที่มาสร้างฝาย นั่งรถกระบะเข้าไปไกลมาก ลึกมาก)

เมื่อถึงจุดทำฝาย พวกเราก็จะลงมือเลย แต่โดนพี่อารีย์ห้ามไว้ก่อน บอกว่า กินข้าวก่อนนะจ๊ะ กินจ้ะ แล้วค่อยทำ (สงสัยกลัวพวกเราเป็นลมคาที่) ซึ่งอาหารกลางวัน เป็น ข้าวเหนียว หมู/ไก่ ห่อใบตอง​ ข้าวเหนียวมาเยอะมาก แต่ก็กินหมดอยู่ดี 55+ แล้วก็ไข่ต้ม (ซึ่งอันนี้เราไม่ได้กิน) แล้วก็น้ำเปล่าคนละ 1 ขวด

ภาพอาหารกลางวัน (cr: น้องปอย)

เมื่อเสร็จภารกิจเติมเต็มพื้นที่ท้อง ก็ได้เวลาทำงาน เย้!

กลุ่มสอง (สีแดง) ของเรา ข้ามฝั่งไปขุดดิน ขุดทรายกันอีกที่ (ไม่ยอมอยู่ตรงที่แดดร้อน) เราก็ไปจับจอบขุดดินใส่บุ้งกี๋ได้อยู่ประมาณ 2 กระบุง ก็รู้เลยว่า "อย่าฝืน" ประโยคในอีเมลที่ได้รับ Brief มา ลอยเข้ามาในหัวเลย "ให้เลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเรา ทำเท่าที่เราทำไหว" โอเค ศักยภาพกรรมกร Office ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายแบบเรามันกากแบบนี้นี่เอง ก็เลยเปลี่ยนหน้าที่เป็น คนที่ยกบุ้งกี๋เทดินใส่กระสอบแทน (รวมถึงคอยคัดหินออกจากดิน/ทรายก่อนเท) สะดุดกิ่งไม้ก็หลายรอบ ดีนะไม่หน้าทิ่ม 55+


เททีนึงก็กลั้นหายใจที หลับตาบ้างบางที ฝุ่นนี่ตลบอบอวนมาก

Man of the match การขุดดินของกลุ่มเราคือ
  1. พี่โต ผู้ซึ่งทำสัมปทานการขุดดินไปรอบๆ กว้างๆ ไม่ลึก
  2. พี่หนุ่ม และ พี่อ๋อง (เปลี่ยนมือกัน)
  3. พี่หมวย ผู้หญิงร่างเล็ก ทำงานด้านการศึกษา ที่มีความแมนเกินร้อย น้องกราบบบบ (พี่เข้าฟิตเนสทุกวัน วันละ 3 ชม. งี้)

ซึ่งคนที่ 2. กับ 3. เนี่ย แข่งกันขุดลึก เสมือนว่ากำลังหาสมบัติกันอยู่ หลุมออกมาเป็นแว่นตายังกะ ray ban

พื้นที่สัมปทานของพี่โต

ray ban ลึกกว่านี้ จะกลายเป็นหลุมหลบภัยละนะ

ด้วยความบ้าพลังของทีมขุดดิน ที่ขุดไม่หยุด ไม่พัก บิ้วท์กันเองรัวๆ ว่า จะเสร็จแล้ว! อีก 5 ถุง ก้มหน้าก้มตาทำ เห้ย ทำไมมันแยกร่างกลายเป็น 7 ล่ะ! (ตลกมาก 55+) ยกดิน/ทราย เทใส่กระสอบเกินครึ่งถุงรัวๆ ยกลงมากองด้านล่าง ทำให้งานเสร็จเร็วเวอร์ เมื่อครบ 80 ถุงก็... นั่งพักค่ะ มีความเหนื่อย (เพิ่งรู้ตัว)


ทีมกั้นคอกของเราก็มีความทำงานเร็ว ยกไม้ ตอกไม้ลงดิน มัดเรียงไม้ไผ่ เอากระสอบทรายเรียง กระโดดทับให้แน่น เอาไม้กั้นด้านบนอีกที ตอกตะปู เลื่อยไม้ บวกกับทีมหาหิน (และทีมขุดดินที่หายเหนื่อย) ช่วยกันโยนหินก้อนใหญ่ลงไปรัวๆ บนกระสอบทราย แล้วต่อ jigsaw ด้วยการเอาหินก้อนเล็กๆ อุดตามรู


อ่อๆ Highlight ของทีมเราคือ ให้ "พี่จุ๋ม" ผู้ซึ่งมีกำลังใจเต็มเปี่ยม แต่เกิดอุบัติเหตุโดนไม้เกี่ยวข้อศอกเป็นแผลใหญ่ (ตอนที่เดินแล้วลื่นลงมาตั้งแต่มาถึง) พี่คิมพาไปส่งอนามัย หรือโรงพยาบาลเนี่ยแหละ เย็บไป 4 เข็ม!!! กลับมาตอนที่ฝายเรากำลังจะถมหินพอดี ก็เลยให้พี่เค้าเป็นผู้วาง (หิน) ศิลาฤกษ์! (เฮ)


ด้วยความสามัคคี และบ้าพลัง ทำให้งานกลุ่มสีแดงเราเสร็จก่อนสีชมพู (หยกกับต้นอยู่สีนี้) และเขียว (ปอย จิม เก้า แบงค์ อยู่สีนี้) เย้ !!! **ทำไมเราถึงหลุดมาอยู่สีแดงคนเดียว ตอบบบบบ**

เมื่อทำงานเสร็จก็ต้องชักภาพหมู่ตามธรรมเนียม แล้วเปล่งเสียงคำว่า "ทรงพระเจริญ" จำนวน 3 ครั้ง


จากนั้นก็เป็นเวลาปล่อยฟรี ให้ทุกคนได้เก็บภาพกับฝายที่ช่วยกันสร้าง ด้วยน้ำพักน้ำแรงเป็นที่ระทึก 

ท่าประจำกลุ่ม Super Colourful

ขอบคุณตากล้องพี่อ๋องที่ช่วยถ่ายภาพให้นะคะ

จากนั้นก็ช่วยกันเก็บอุปกรณ์กลับ รอให้ทุกคนเสร็จภารกิจ เดินกลับมาที่โรงเรียน แล้วกลับวัดกันด้วยรถบัสคันเดิม ไปอาบน้ำล้างตัว (พี่อารีย์บอกว่า ถุงปุ๋ยที่เอามาเป็นถุงปูนขาว ถ้าไม่ล้างตัวจะคัน ได้ยินแบบนี้ รีบอาบให้ไวเลยค่ะ)

เสร็จภารกิจสร้างฝาย ฝุ่นคละคลุ้งเต็มใบหน้าและลำตัว (cr: ต้น)

เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็มารวมตัวกันที่โรงทานอีกรอบ แบ่งกลับไปนั่งกลุ่มตัวเอง (8 คน) สรุปกิจกรรมว่าได้อะไรจากการทำฝาย แล้วทุกคนรู้สึกอย่างไรกันบ้าง



อันนี้เป็นโพยของกลุ่มเรา (ซึ่งโดนท่านหัวหน้า พี่อ๋อง ชี้ให้เป็นตัวแทนจับไมค์ป่าวประกาศ)


ท่าประจำกลุ่ม ต้องมาค่ะ (cr: ต้น)

สิ่งดีๆ ที่ได้จากทุกคน/ทุกกลุ่ม นอกจากจะได้เรียนรู้ว่า การทำฝายช่วยเรื่องอะไร มีประโยชน์อย่างไรแล้ว ความรู้สึกของทุกคนที่มีคล้ายกันคือ ถึงแม้จะเหนื่อยก็มีความสุข ดีใจที่ได้มาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ได้รู้จักการแบ่งงาน เกิดการรวมใจ รวมพลัง สามัคคีกัน ต่อให้ไม้เกือบฟาดหน้ากัน เทดินลงมือเพื่อน ฝุ่นตลบเข้าตา ก็ยังมีรอยยิ้มให้กัน (ซึ่งถ้าอยู่ในเมืองตามชีวิตปกติ แค่บางทีมองหน้าแล้วไม่ถูกชะตากัน ก็จะตีกันง่ายๆ) 


เราได้เป็นผู้ให้ (กำลังกาย) และเป็นผู้รับ (ด้านจิตใจ) ในเวลาเดียวกัน อันนี้เราเห็นด้วยมากๆ จะมีสักกี่ช่วงเวลาที่เราได้มีสองบทบาทในเวลาเดียวกัน

คติประจำตัวของพี่หมวย กลายเป็นประโยคเด็ดบาดใจของกลุ่มเรา ถึงขั้นต้องเป็นประโยคปิดท้ายของการกล่าวสุนทรพจน์ (เวอร์จริงๆ)

***ได้ทำตัวเหมือนเศษธุลี ที่มีค่าต่อแผ่นดิน***

อ่านโพยรัวๆ (cr: ต้น)

เมื่อจบการ Present ของทุกกลุ่ม ทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลง "ต้นไม้ของพ่อ"




ท่านเจ้าอาวาสมาพูดคุยกับพวกเราตอนท้าย บอกว่าที่วัดนี้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง พระที่นี่เป็นพระทำงาน ตอนนี้มีโครงการรถพระธรรม ตระเวนไปตามโรงเรียนต่างๆ อยู่ ก็เลยไม่มี Projector ฉายภาพให้ดู (รู้สึกดีและปลาบปลื้มกับพระที่ปฏิบัติตนแบบนี้มาก บอกเลย)

พวกเราร่วมกันถวายสังฆทาน แล้วท่านก็ให้พร จำพรที่ท่านให้ทั้งหมดไม่ได้หรอก ท่านขอให้พวกเราเจอสิ่งดีๆ แล้วก็ "ถ้าเรากลับไปทำงาน แล้วเจอปัญหา หรือทะเลาะอะไรกัน ให้ลองยิ้มให้กันดู (อภัยให้กัน) เหมือนที่เราทำวันนี้ อะไรที่มันยาก มันอาจจะง่ายขึ้น" เป็นการรับพรที่รู้สึกดีจริงๆ


ก่อนจะขึ้นรถกลับ พี่อารีย์ก็ให้เราช่วยกัน กวาดโรงทาน แล้วก็ล้างห้องน้ำ ซึ่ง เรา ปอย เก้า แบงค์ เลือกไปล้างห้องน้ำไกล (เพราะไปใช้ที่นั่นไง) ขึ้นรถมาสักพักเจอถนนใหญ่ได้นิดนึงก็กลับมามีอินเตอร์เน็ต รีบไถเปิด blog เก่าย้อนดูโดยพลัน!

นั่นไงงงงงงงงงงง ที่เดิมเลย ก็ว่าทำไมทุกอย่างมันดูคุ้นตาขนาดนี้ ฮือออออ หนูขอโทษค่ะพระอาจารย์ที่หนูจำไม่ได้ว่าหนูเคยมาทำฝายที่นี่ หนูขอโทษที่จำวัดลิ้นช้างไม่ได้ หนูผิดไปแล้ว T T

บนรถขากลับ พี่เฟม (ทำงานอยู่กระทรวงการท่องเที่ยว) สาวตัวเล็กที่ใจไม่เล็ก มาร่วมกิจกรรมคนเดียว ได้ย้ายมานั่งกับหยก ส่วนน้องปอยก็ย้ายมานั่งกับเราแทน

ช่วงเวลาบนรถที่เดินทางกลับ ทั้งๆ ที่เหนื่อย (และเหนอะหนะจากสภาพอากาศ นี่อาบน้ำแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย) แก๊งเราก็ไม่หยุดเม้าท์มอยกับพี่เวต และน้องปาล์ม ตะโกนคุยแข่งกับเสียงเพลงจนเสียงแหบ เจ็บคอ (ทำตัวเองทั้งนั้น) มี Birthday Surprise ให้น้องจู๊ดด้วย (มีการสร้าง Story ดราม่าตาม Step) คุยกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งถึงที่หมาย ปตท. สนามเป้า (แวะกินข้าวเย็นที่แม่กิมไล้ ข้าวราดปลากระป๋อง ราคา 40 บาท - ไม่อร่อยเลยยยยยย)

แล้วพวกเราก็ก้าวขาลงรถมายืนอยู่บนคอนกรีตเมืองกรุง เวลา 21.20 น. อากาศข้างล่างเย็นกว่าบนรถแล้วค่ะตอนนี้

ระหว่างที่รอต้น set up กล้อง Yi ก็มาเซลฟี่กันก่อน (cr: แบงค์)

แชะกันอีกซักรอบ ก่อนแยกย้าย (cr: ต้น)

หมดแรงไม๊ ก็มากอยู่
เหนื่อยไม๊ ก็หนักอยู่
ตื่นเช้ามา ก็ปวดร่างอยู่

แต่น่าแปลก ถึงแม้ร่างกายจะอ่อนเพลีย ระบมแค่ไหน จิตใจกลับรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เป็นความรู้สึกดีๆ อีกแบบ ที่บางครั้งเราก็หลงลืมไป เพราะมัวแต่ตกอยู่ในวังวนของการเป็นมนุษย์แรงงานในเมืองกรุง

เราจะไม่ลืมความรู้สึกดีๆ แบบนี้
เราจะ (หาเวลาว่าง) ไปทำงานอาสาฯ อีก

เราเชื่อว่า การคิดดี ทำดี มีจิตใจที่ดี จะส่งผลให้เราได้เจอสิ่งดีๆ :) 

ปิดท้ายด้วยวีดีโอจากต้น ที่มีความบ้าพลัง ตัดต่อเสร็จหลังจากกลับบ้านได้ไม่นาน
นี่กินยาบ้าเข้าไปเหรอ...


ภาพกิจกรรมของทางทีมงาน (Facebook Album1, Album2)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม