กินไปเรื่อย ณ ไต้หวันแลนด์

เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (26-30 Nov 2015) ไปไทไป ไต้หวันมาล่ะ หลังจากนั่งแช่อยู่นาน มองภาพที่ถ่ายเอาไว้จำนวนหลายกิ๊ก จะเขียนรีวิวยาวๆ ก็ยังขี้เกียจ เพราะมันใช้เวลานานม๊ากมาก ก็เลยตัดสินใจ เริ่มด้วยของกินก่อนละกัน ไปกันเล้ยยยย

ครั้งนี้เราเลือกเดินทางด้วยสายการบิน V Air เปิดศึกแห่งการกินด้วยสิ่งนี้เลยจ้า มัน มัน มันดีงามมาก ชีสเค้กนุ้งหมีเอง ถ้าใครเดินทางด้วยสายการบินนี้ แนะนำให้ลอง


จากนั้นก็ได้ชิมเบอร์เกอร์บด ไม่แย่นะ แต่ไม่ชอบแบบบดอ่ะ เนื่องจากไม่ได้สั่งล่วงหน้ามาจากพื้นดิน พอมาสั่งบนเครื่อง ก็เลยต้องใช้เวลารอนานเกือบ 30 นาที เพราะว่าไปเวฟอยู่


ในเซตเบอร์เกอร์จะมีสองสิ่งแนบมาด้วย คือ น้ำผลไม้ ที่ไม่ผสมน้ำตาล มัน... จี๊ดจ๊าดมาก


และโดรายากิ ที่ตอนแรกเราคิดว่ามันต้องดีงามมาก แต่ความจริงแล้วไซร้... ชีสเค้กอร่อยกว่าเยอะเลย แป้งโอเคนะ แต่ไส้ไม่โอเค คือคิดไปเองว่าข้างในมันจะเป็นไส้ถั่วแดงเหมือนที่เคยกิน แต่มันไม่ใช่อ่ะ มันไม่ใช่ ความเลี่ยนของไส้นั้น...สูงมาก


เมื่อลงจากเครื่องเรียบร้อย เราก็หาทางเข้าเมืองกันด้วยรถไฟความเร็วสูง ระหว่างรอรถไฟก็ต้องแวะทักทาย 7E ซะหน่อย ได้สองสิ่งนี้มารองท้อง

ชาเขียวนม กินเป็นอยู่อย่างเดียวว่างั้น ฮ่า รสชาติไม่เหมือนที่บ้านเรา อร่อยนะ ไม่แย่ มันช๊าชา


แล้วก็ข้าวปั้นสามเหลี่ยม อันนี้ก็เบสิค แต่ safety ล่ะหน่า


พยายามอ่านป้ายว่า ซื้ออะไรกับอะไรได้ลด แต่ความพยายามก็มีไม่มาก ก็มันเป็นภาษาจีนหมดเลยนี่หน่า บางทีการมี Google Translate ก็ไม่ช่วยอะไร

หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย ไปปีนเขาช้างท้าความหนาวเพื่อดูตึกไทเป 101 ก็ได้เวลา Shilin Night Market เริ่มเล้ยยย

โผล่จากอุโมงค์ข้ามถนนก็จะเจอกับ

แป้งขนมเปี๊ยะทอด หรือโรตี หรืออะไรไม่รู้ มีความหวานมันในตัว และแป้งร่วนมากเช่นกัน อร่อยนะ แต่ชิ้นเดียวพอ


ส่วนอันนี้สิดีงามมาก สวัสดี พี่เนื้อเองจ้ะ โฮกกกก ใช้ไฟพ่นรัวๆ ให้มันสุก ตื่นตาตื่นใจ


อันนี้ชอบที่สุดเลย ก้อนนมสดทอดในน้ำมันเดือดๆ (มันคงมีชื่อเรียกอื่นที่เพราะกว่านี้แหละ แค่ไม่รู้ - -") กรอบนอก นุ่ม"ระอุ"ในมาก เมื่อสัมผัสเข้ากับลิ้น ก็ละลายเลย ดี๊ดี 


ส่วนสิ่งนี้ ไม่ได้กิน แต่ถ่ายเก็บมาไว้เป็นที่ระทึก เพราะสีมันน่ากลัวดี ดูจากทรงแล้วมันน่าจะเป็นผลไม้เชื่อมนะ


นี่เป็นไส้กรอกที่เนื้อแน่นมาก มีน้ำจิ้มหลายแบบให้เลือกทา (ใช้แปรงทา เหมือนทาสีบ้านอะ) เค้าแนะนำให้เป็น น้ำจิ้มกระเทียม ก็แปลกดี


หลังจากที่แวะกันตามร้านข้างทาง ก็ตัดสินใจจะกินข้าวเย็นกันอย่างจริงจัง ตอนแรกเดินเข้าไปร้าน local อยากจะลองไง แต่สุดท้ายก็ไม่รอด เพราะเมนูมีแต่ภาษาจีน (พยายามแปลด้วย Google Translate แล้วแต่ไม่รอด) แถมเราก็พูดกับป้าที่พ่นจีนใส่เรารัวๆ ไม่ได้อีก

เลยต้องย้ายร่างไปที่ร้านที่มีเมนูภาษาอังกฤษ และมีภาพประกอบ (แต่กระดาษจด order มีภาษาจีนอย่างเดียว... นั่งเทียบตัวอักษรไปจ้ะ) ขนาดเข้าร้านที่ดูปลอดภัยแล้วก็ยังไม่วาย มีเรื่องให้หวาดเสียว คุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ดี ฮือออ

อาหารที่นี่เค้าสั่งเป็น Set แบบ มี 1 หม้อ 1 ข้าว แล้วมันเยอะมากกกกก
นี่ขนาดสั่งแค่  2 set แล้วสั่ง topping เพิ่มอีก 2 จาน สำหรับ 4 คน ยังเกือบตาย
กินไม่หมด เสียดายของ T T




ก่อนกลับไปซุกหัวนอน เราไม่ลืมที่จะแวะร้าน 7E ที่คุ้นเคยอีกครั้ง เพื่อเลือกซื้อของที่ถูกจริตของแต่ละคน อย่างเราได้โยเกิร์ตน้ำ กับ น้ำขวดนึง เพื่อการขับถ่ายสะดวกในวันพรุ่ง


วันที่สองของการมาเยือน

วันนี้เราจะไป Sun moon lake กัน แน่นอนว่า 7E ตอนเช้าเช่นเคย (ตรงรอรถไฟความเร็วสูงนั่นแหละ) เวลามีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด

นมมะละกอ มันมะละกอมากกกกกกกกกกก ชิมให้รู้ จะไม่เอาอีกแล้ว 
ส่วนขนมปังก้อนๆ นี่ไม่แนะนำ ไม่ปลื้มเลยหง่ะ


อะ อะ อะ มาถึง Sun moon lake และ หลังจากเอาของฝากไว้ที่พัก ก็ออกเรือไปตามเกาะต่างๆ กัน

เกาะแรกที่มาถึง ห้ามพลาดเด็ดขาด! ไข่ดำต้ม รสชาติเหมือนไข่พะโล้บ้านเรานั่นแหละ แต่พริกไทยเยอะกว่า กินแล้วพลังเพิ่มมาสิบขีด


จากนั้นก็ข้ามมาอีกเกาะนึง ตอนแรกก็ว่าจะหาร้านอาหาร แต่ก็เหมือนเดิม ไม่รู้จะสั่งยังไง อ่านไม่ออก ใจไม่กล้าเข้าร้านอาหารตามสั่ง เลยชี้ๆ เอาตามร้านข้างทาง ตามอัธยาศัยนั่นแล

เราได้อันนี้มา ชี้ๆ เอา แป้งนุ่มละมุนหวานเนียนมาก ส่วนไส้ก็งั้นๆ อะ ตอนนั้นนี่อยากจะไปซื้อเฉพาะแป้งกลับบ้านเลย


มาไต้หวันไม่กินชานมเดี๋ยวมาไม่ถึง ชานมที่นี่ ช๊าชา อีกเช่นเคย ที่น้ำตาลท่วมใส่แบบบ้านเรานี่ไม่มีนะจ๊ะ
ประเด็นคือลายแก้วมุ้งมิ้งระดับสิบ


แล้วเราก็ขึ้นกระเช้าที่เกาะนี้ ข้างบนมีไอติมขาย คำแนะนำคือ กินให้หมดดดดด
เพราะเอาขึ้นกระเช้ากลับลงมาไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ทิ้งด้วย ต้องยัดเท่านั้น!
หนาวก็หนาว น้ำตาจะไหล ฮือออ


กลับมาที่แถวที่พัก เพื่อหามื้อเย็น ร้านที่เค้าบอกว่าอร่อยต้องรอคิวประมาณ 1 ชม. หรือมากกว่านั้น เลยหาร้านอื่น ที่ดูกันแล้วว่าจะสั่งอาหารได้โดยไม่ได้อะไรแปลกๆ มา มันช่างเป็นภัตตาคารอาหารจีนโดยแท้

เต้าหู้เนื้อดีนะ ละมุนเชียว ถ้าไม่มากับน้ำเยิ้มๆ นี่จะดีมาก


ผัดผักแบบผัดผักอ่ะ (เข้าใจปะ) 555+ คือมันไม่มีรสชาติอื่นๆ แบบบ้านเรา มันคือผัดผัก!


จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร พอกินได้


อันนี้อร่อย ตอนแรกนึกว่าเป็นกระดูกหมูหรืออะไรซักอย่าง สรุปว่ามันคือเป็ดย่างที่เราสั่งเพิ่มกัน หน้าตาแกไม่เห็นเหมือนเป็ดเลย ให้ตายสิ


แถมซุปมาให้ชามบะเร้ออออออ


อันนี้ดีงามมาก สมกับที่อยู่ติดท่าเรือ ไหนๆ เจ้าก็สละชีวิตให้เราแล้ว เราจะเหลือแค่โครงกระดูกของเจ้าไว้ประดับแผ่นดิน


ปิดท้ายด้วยสิ่งนี้ ล้างปาก ล้างความเลี่ยนทุกสิ่งอัน ชอบมาก


ก็เช่นเคย ก่อนกลับเข้าที่พัก เราต้องแวะ 7E กันก่อน

*คำเตือน C&C ขวดนี้เป็นแบบซ่า T__T ลำบากใจมากตอนกิน ซ่าขึ้นหัวมาก นึกว่าเป็นวิตามินซีเฉยๆ แบบที่เคยกินนี่หว่า

นมจืดอร่อยนะ ขนมปังทาแยมสตอเบอร์รี่ก็เช่นกัน


พวกผู้ชายที่กินไม่อิ่ม ต้องมีมื้อดึกต่ออีก คือเราไม่ได้กิน แต่ชอบที่หิ้วเค้ามากเลย ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก ชอบบ


อะ ผ่านไปอีกวันละ

ตอนเช้ามืดเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ทางเจ้าของที่พัก เค้าให้เราได้ชิมชาของที่นี่ ทีมละ 1 ขวด มันหอมมาก ขนาดอยู่ในน้ำเย็นยังขนาดนี้ ถ้าเป็นน้ำร้อนมันคงฟุ้งกว่านี้เยอะมากเลยล่ะ


แล้วเราก็หอบร่างอันหิวโซกลับมากินข้าวเช้าที่ที่พัก ที่พักที่นี่น่ารักมาก เติมได้ไม่อั้น เอาซี่!! พวกผู้ชายก็ไม่เกรงใจ ขอไข่ดาวเพิ่มกันรัวๆ
แต่สำหรับเราเท่านี้ก็เกินพอแล้ว เยอะมากล้าวววว
ผัก ผลไม้ที่นี่สดมาก และเช่นเคย ชอบส้มแบบนี้มาก xoxoxo


วาร์ปกลับมาที่เมืองไทเป ทาร์ตไข่หน้าตาดี แต่! ไม่อร่อยเท่าไหร่นะ


จากนั้นเราก็ไปขึ้นกระเช้า (อีกแล้ว) ที่ Maokong พอไปโผล่จุดสูงสุด ก็หาของกินกันอย่างหน้ามืด

สวยแต่รูป! ขนาดใส่น้ำจิ้มเผ็ดๆ ราดลงไปแล้วยังไม่ช่วยเลย T T


ต้มมะระ อันนี้ไม่ขมนะ แต่ก็ไม่ได้อร่อยมากพอที่จะกินหมดอ่ะ


นี่ก็ไม่อร่อยหง่ะ ขนมผักกาดบ้านเราอร่อยกว่านะ


ไส้กรอกนี่ผ่าน สงสัยต้องกินอะไรเบสิคๆ แบบนี้สินะ


แล้วเราก็ได้เจอกับร้านคาเฟ่ที่มีรูปแมวเป็นสัญลักษณ์ ของคาวเราไม่สู้ ของหวานนี่สู้ตาย

ไอติมชาเขียวนี่ดีมากกกกกก ( ก ล้านตัว) โคตรชาอะ รักเลย


ชาอะไรซักอย่างกับนม อันนี้ก็อร่อย (จิ้มๆ เมนูมาอีกเช่นเคย)


อันนี้ก็ดี ยังปลาบปลื้มกับไอติม <3


ชาผลไม้รวม เป็นชาหวานๆ ที่มีผลไม้ใส่มาให้อย่างจริงจัง พุทรา ลำไย อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด


สุดท้าย โดนัทบ้านี่ไม่อร่อยเลย แข็งและร่วนมาก ฮือออ รอตั้งนาน ผิดหวังสุด


จากนั้นก็เปิดวาร์ปไปโผล่ที่ Jiufen เป็นอาหารเย็นที่ประทับใจมาก รสชาติเกือบเหมือนกินที่บ้าน ไม่มี location ให้ check-in พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีจริงๆ จ้า

ชาร่วมสาบาน


เสี่ยวหลงเปา า า า า า า แป้งเนียนนุ่ม ไส้ชุ่มฉ่ำ ลูกเดียวไม่เคยพอ


ผัดผักหวานบ้านเรา 555+


ซุปหม้อไฟนี่ก็ให้ของแบบไม่อั้น อากาศเย็นกับน้ำซุปร้อนๆ มันดีมาก


ไก่ผัดกับอะไรซักอย่าง อันนี้ถือว่าพอได้


ไก่อบไวน์ ประมาณนั้นนะ อันนี้เลี่ยนอะ ไม่ผ่านจ้ะ


ก่อนจะเข้านอน วันนี้เราไม่มี 7E  แล้ว แต่เรามี! การจิบชาอันเป็น signature ของที่นี่ กินแล้วเมา หัวเราะกันเป็นแถบ

ได้เรียนรู้กรรมวิธีชงชาอย่างจริงจัง แก้วชาสำหรับกิน แก้วชาสำหรับดม ดมไปดมมา เหมือนคนติดยา ทั้งเคลิ้ม ทั้งหัวเราะ ยังแอบคิดอยู่เลยว่าเค้าใส่กัญชาแทนใบชาหรือเปล่า :P


คืนนี้เราพักแบบดอร์ม ตื่นมามี ขนมปัง(ไส้ไข่ดาว และของเคียงนิดหน่อย) พร้อมกับนมสดขวดยักษ์


แล้วเราก็กลับเข้าตัวเมืองไทเปอีกครั้ง

กลางวันวันนี้ เราแวะกันที่ Addiction Aquatic Development เพื่อ ปลาดิบบบบบบบบบบบบ
ของสด ราคาไม่แพง คือหารๆ กัน 5 คน ตกคนละ NT$300 มันคุ้มมาก







ตอนบ่ายๆ ก็ต้องมีขนมกับน้ำหวานตามสไตล์ แวะมาถ่ายรูปกับคุมะมงคาเฟ่สิคะ
ราคาค่อนข้างสูง ส่วนรสชาติ... แย่กว่าราคาเยอะอยู่นะ T T



มื้อสุดท้าย เป็นมื้อเย็นเร่งด่วนที่ Food court ใต้ตึก Taipei 101 กินคู่กับ ชานมไข่มุก (ลืมถ่าย) ค่อยรู้สึกเหมือนกินอาหารไทยหน่อย กระทะร้อนไรงี้ ชานมแม้จะคนละเจ้า รสชาติก็ยังคงเป็นช๊าชาเหมือนเดิมนะ


เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ต้องบินกลับละ (ไฟลท์เช้ามากกกกกอีกต่างหาก)
ขากลับสั่งชีสเค้ก (ติดใจ) และสิ่งนี้... Apple Soda น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดบนเครื่องละมั้ง


รู้สึกเหมือนกินเยอะกว่านี้ แต่บางอย่างก็ไม่ได้ถ่ายไว้ ฮ่าา เรื่องเล่าของอาหารการกินก็ประมาณนี้แล้วกันนะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้าไม่ขี้เกียจคงจะตามมาในเร็ววัน :P

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม