วันสัมภาษณ์ YWC 10 เป็นอีก 1 วัน...ที่ไม่อาจลืมเลือน

น้องๆ หลายคนคงจะตื่นเต้นกับการมาสัมภาษณ์เพื่อเข้าค่าย YWC10 ในครั้งนี้ ตอนปีที่แล้วพี่ก็ตื่นเต้นและตื่นกลัวเหมือนกันค่ะ

แต่ครั้งนี้ในสถานะพี่ staff พวกเราเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แม้จะเตรียมงาน แบ่งงานกันเป็นอย่างดีแล้ว วันจริงก็ยังไม่วายเกิด accident ขึ้นอยู่ดี

เริ่มจากเปิดให้น้องๆ ลงทะเบียนเวลา 8.30 น. ในฐานะที่เราไปในนามผู้ดูแลการลงทะเบียน ขอยอมรับผิดที่ไปถึงเวลา 8.20 น. (ควรจะมาเร็วกว่านี้)

ทันทีที่มาถึงก็พบกับความวุ่นวายครั้งยิ่งใหญ่ ทุกคน (ที่มาเช้า) กำลังช่วยกันเรียงใบสมัครของน้องๆ ตามเลขที่สมัคร (เพื่อนที่เคารพรักผู้ทำงานดึกทั้งสอง เข้าใจว่าเป็น ท่านประธานและท่านเว็บมาสเตอร์ไม่ยอม print แบบเรียง ID มา) ด้วยจำนวนน้องที่เข้ามาสัมภาษณ์กว่า 300 คน แต่เลข ID มีตั้งแต่ 1xx - 12xx ทำเอาพวกพี่ๆ ตาลายกันเลยทีเดียว

แต่ด้วยความเป็นปีศาจผู้ชอบสั่งการ ก็ไปรื้อระบบที่เค้ากำลังทำอยู่คือ คนนี้ดูแลเลข 100-199 อีกคนดู 200-299 ฯลฯ แต่เลขมันมีถึงหลัก 12xx คนมีไม่พอ ที่สำคัญคือจำไม่ได้ด้วยว่าใครดูเลขอะไรอยู่ ก็เลยบอกให้ทุกคนช่วยกันเรียงเป็นกอง จากซ้ายไปขวา 1xx ไปถึง 12xx หลังจากแยกกองได้แล้ว มาเรียงลำดับในกองก็จะง่ายขึ้น ขณะที่พวกพี่กำลังทำงานกันหัวหมุน น้องจำนวนหนึ่ง (น่าจะ 20 กว่าคนได้) ก็มายืนให้กำลังใจ (กดดัน) อยู่โดยรอบ --พวกพี่ผิดไปแล้วจ้า อย่าตีหัวพวกเค้าน้า--


ด้วยเวลาไม่นานนักก็สามารถเปิดลงทะเบียนได้ ทุกคนที่มาช่วยกันตอนแรกก็สลายโต๋ไปประจำหน้าที่ของตัวเอง


เปิดลงทะเบียนปุ๊บก็ต่อคิวกันมาให้พรึ่บ!!! พวกพี่ก็เขียนๆๆ กันมือเป็นระวิง


เพราะมีน้องๆ ยืนคอยอยู่เป็นจำนวนมาก (กดดันกันสินะๆๆๆ) จะนั่งยังไม่กล้าเลย คิดดูสิ (ขอความเห็นใจสุดๆ 555)


ใจจริงตอนแรก อยากเข้าไปคุยกับน้องๆ สาย Content มากเลยนะ (อย่าหาว่าพี่ลำเอียงเลย แต่ขอนิดนึงเนอะ 555) แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้แค่ทักทายกันตรงโต๊ะลงทะเบียนเท่านั้นเอง


แต่พอ 9.00 น. เข้าไป post รูปใน facebook Fanpage YWC เท่านั้นแหละ FB Msg ก็ส่งมาเลย มีใจความประมาณว่า

"9.00 น. แล้วนะครับ ผมพร้อมสัมภาษณ์ออนไลน์แล้ว"

ช็อคสิคะ ขออนุญาตอุทานแบบเบาๆ ว่า WTH!!! WTF!!! ก็รีบส่องหาท่านประธาน เพื่อขอตัวช่วยในทันที เนื่องจากไม่ได้เป็นคนรับดูแลเรื่องการสัมภาษณ์ออนไลน์ ไม่รู้อะไรเลย - -" ท่านประธานยิ้มหวานแล้วบอกว่า คนทำงานฝ่ายสัมภาษณ์ออนไลน์ยังไม่มา (ทั้งสองคน) ในที่นี้ไม่ขอเอ่ยนามนะจ๊ะ :D

เอาไงดีล่ะทีนี้!!!???

จะประวิงเวลาให้น้องรอต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจเข้ามา handle งานตรงนี้ ขอบคุณน้องแฮม น้องน้ำ น้องลาภ (และอาจมีคนอื่นอีก) ที่มาช่วยดูเรื่องออนไลน์กันในช่วงแรก ถ้าพี่ทำคนเดียวคงง่อยตายแน่ๆ

และชีวิตหน้าคอมตลอดวันสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น


จงอย่าแปลกใจหากน้องคนไหนเห็นพี่นั่งเล่น facebook หน้าเครียดตลอดทั้งวัน (มันเครียดจริงๆ นะ)

ในตอนแรกที่ระบบอะไรๆ ก็ยังไม่ลงตัว ต้องคิดแผนมารองรับกันใหม่ เช่น
  • ไม่ว่าจะเป็นการหาคอม, อุปกรณ์อะไรก็ตามมา hangout, skype รวมไปถึงหาพี่ๆ มาช่วยกันทำหน้าที่ตรงนี้
  • ID skype ที่ต้องเปิดเพิ่ม เนื่องจากน้องสัมภาษณ์ออนไลน์เยอะมาก
  • คนเดินคิว ที่ฝากคนนู้นคนนี้เอาบ้าง เพราะเดินเองหลายๆ รอบก็จะเป็นลมได้เหมือนกัน (เค้าแก่แล้ว T^T)
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะติดสอบหรืออะไรกัน แต่น้องที่ขอสัมภาษณ์ออนไลน์...

เยอะมาก (ขอย้ำอีกรอบ)!!!

ที่เครียดที่สุดคือพยายามประชาสัมพันธ์ให้น้องที่สอบสัมภาษณ์ออนไลน์รับรู้การเปลี่ยนวิธีใหม่กันในวันสัมภาษณ์ผ่านทั้งหน้า Fanpage และ Twitter (รวมถึงมีพี่คนอื่นช่วยกันโทรศัพท์)
หากน้องคนใดต้องการสัมภาษณ์ออนไลน์ ให้แจ้งรายละเอียด เวลาสัมภาษณ์ มาทาง Facebook msg ก่อน ไม่เช่นนั้นจะจัดเรียงคิวไม่ได้เลย และจะไม่รู้ด้วยว่าน้องได้สัมภาษณ์หรือยัง หรือตกหล่นอยู่
หากน้องติดต่อมาหาพี่แล้ว น้องไม่ได้สัมภาษณ์ ความผิดขั้นต้นจะเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียว จึงต้องเช็คแล้วเช็คอีก ทั้งใน msg และหน้า wall (แต่ประเด็นหลังนี่แอบหงุดหงิดเบาๆ นะ)


ไม่ได้อยากจะว่าอะไรนะคะ แต่น้องบางคนก็ทำให้พี่เหลืออดจริงๆ (ถึงขั้นโวยวาย เหวี่ยงอยู่หน้าคอมคนเดียว) เช่น
  • Post to wall (พี่บอกแล้วนะคะว่า msg ไม่ใช่หน้า page = =")
  • ขอรายละเอียดก็ให้ไม่ครบ ทั้งๆ ที่แจ้งโดยละเอียดแล้ว (หรือพี่เขียนให้น้องไม่เข้าใจ T^T)
แต่อย่างที่บอก พี่ต้องทำให้น้องทุกคนได้สัมภาษณ์ออนไลน์ให้ได้ แม้หลายคนจะทำให้พี่อยากตัดชื่อออกก็เถอะ 55+




ขอบคุณหลายคนที่ช่วยกันดูเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น ขอบคุณชิคุงที่มาช่วยเราเช็คอีกรอบในช่วงพักเที่ยง เนื่องจากสายตาเราล้ามากแล้ว และทางทีมงานก็ต้องขอโทษน้องๆ ด้วย ที่มาเปลี่ยนวิธีกระทันหัน หรือไม่แจ้งให้น้องทราบก่อน ปีหน้าน้องๆ คงทำได้ดีกว่าพวกพี่เนอะ :P



ช่วงสายๆ ขณะที่เพื่อน staff มาเยอะขึ้น การสัมภาษณ์ก็ดูลื่นไหลขึ้น ด้านออนไลน์ก็เช่นกัน แต่ก็ยังคงละทิ้งหน้าจอไปไหนไม่ได้อยู่ดี

ตลอดทั้งวัน น้องๆ จะได้ไปดู size เสื้อของตัวเอง (เสื้อที่จะแจกสำหรับเด็กค่ายโดยเฉพาะ)


รับฟังสาระที่มีประโยชน์ปนกับเสียงหัวเราะจากพี่ๆ senior YWC ระหว่างรอสัมภาษณ์ในห้องใหญ่ สำหรับใครที่มาแต่เช้าจะได้พบกันกรรมการผู้ที่เป็นคนสัมภาษณ์น้องๆ นั่นแหละมาทักทายให้น้องๆ หลอนเล่นๆ มีการแนะนำตัวรุ่นพี่ในห้องให้น้องๆ ได้รู้จัก พี่ก็อยากเข้าไปนะ แต่เข้าไปไม่ได้จริงๆ = ="


พี่ที่ดำเนินรายการในห้องยังใจดีเดินออกมาถามว่า "น้องพริ้วว่างไม๊ จะให้เข้าไปแนะนำตัวหน่อย"

**ไม่ว่างค่ะ**

แล้วยิ้มแบบหมดแรงให้ 1 ที (แต่ไม่รู้จะกลายเป็นยิ้มสยองแทนหรือเปล่า) 55+

จำได้ว่าในช่วงเช้าเพื่อนตั้งเอากล่องนักเก็ตมาวางไว้ แล้วสั่งตามสไตล์ว่า กินซะนะ! 
กว่าจะได้กินก็เที่ยงกว่าละ ขอบคุณสำหรับอาหารเพิ่มหลังนะจ๊ะ
ปล. เราไม่ได้กินคนเดียวนะ = =)"

ระหว่างที่การสัมภาษณ์กำลังดำเนินไป มีน้องสอบสัมภาษณ์เสร็จ มีน้องมาลงทะเบียนใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ พี่ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม เข้าใจว่าตอนนั้นรากคงงอกติดเก้าอี้ไปแล้ว จะลุกได้ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาสัมภาษณ์ออนไลน์ ต้องเดินแบบเร็วๆ เข้าไปอีกห้องเพื่อประสานงานกับทีมสัมภาษณ์ออนไลน์ ทีมเรียกคิวน้องที่มาสัมภาษณ์ที่ตึก สรุปแล้วก็วุ่นวายพอกันหมด


วันสัมภาษณ์ครั้งนี้มีเรื่องน่าเสียดายอยู่ไม่กี่อย่าง นั่นคือ ไม่ได้คุยกับน้องๆ เลย น้องที่รู้จักก็ไม่ได้คุย T^T ตอนน้องๆ โดนสัมภาษณ์ก็ไม่ได้เข้าไป กว่าจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปห้องนั้นก็คือปิดการสัมภาษณ์ ไปเก็บของเตรียมแยกย้าย... แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหน้าที่ที่ทำอยู่ตรงหน้ามันสำคัญกว่านั้นเยอะ :D


น้องๆ ทุกคนที่มาสัมภาษณ์นอกจากจะตื่นเต้น ผจญความเครียดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พี่คิดว่าได้แน่ๆ จากการที่น้องๆ มาเจอของจริงวันนี้คือ น้องได้...
  • เจอกูรูด้านเว็บตัวเป็นๆ ได้คุยกับเค้า ได้เห็นความคิดของพี่ๆ เค้า
  • ฝึกทักษะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ลับไหวพริบกันให้คมกริบ
  • กลั่นกรองความคิด ประสบการณ์ทุกอย่างมาตอบคำถามที่โดนยิงเข้าไป
  • รู้จักควบคุมอารมณ์ ใช้สติปัญญามากกว่าอารมณ์ ซึ่งพี่คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก


และที่สำคัญคือ

ความตั้งใจที่น้องทุ่มเทลงมาให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ไม่ว่าจะทุ่มไปกับการทำการบ้าน การทำ portfolio การเตรียมตัวมาสัมภาษณ์หรืออื่นๆ

ผลจะออกมาเป็นเช่นไร การที่น้องได้ทำอย่างสุดความสามารถ สุดความตั้งใจ ถึงแม้จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ (คือการติดค่าย) แต่เราก็ได้ทำมัน เมื่อเวลาผ่านไป พอเรามองกลับมาในอดีตเราจะยิ้มและภูมิใจกับสิ่งที่เราเคยทำลงไปอย่างแน่นอนค่ะ


กรรมการแต่ละท่าน แต่ละสาขาก็มีสไตล์การสัมภาษณ์ที่แตกต่างกันไป แต่ทุกท่านใจดีและเป็นกันเองมากๆ ไม่รู้ว่าน้องๆ จะสัมผัสได้หรือเปล่า (อาจจะเกร็งและชอคอยู่เลยไม่สามารถรับรู้ได้ 55)


ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่พี่คิดว่าคนที่มาสัมภาษณ์ที่ CP Tower มีโอกาสติดเป็นตัวจริงสูงกว่าคนที่สัมภาษณ์ออนไลน์ เนื่องจากพี่ๆ เค้าได้เห็นตัวเป็นๆ ของเรา เราได้แสดง acting เต็มที่ โม้ได้น้ำไหลไฟดับ เห็นปฏิกิริยาของพี่ๆ ที่เค้าแสดงตอบกลับมา ได้ทำ test ที่อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้นมา (อย่างสาขา design) แบบไม่บอกล่วงหน้า

คนที่ได้มาเจอคู่แข่งกันซึ่งๆ หน้า ดีกว่ารอออนไลน์อยู่คนเดียวเป็นไหนๆ ^^


ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้น้องๆ ภูมิใจในตัวเองให้มากๆ เพราะอย่างน้อยน้อง 300 กว่าคนที่มีสิทธิ์สัมภาษณ์นี้ก็ได้รับคัดเลือกมาจาก 900 กว่าคน คิดเป็นเศษส่วนก็

1/3 ของผู้สมัครทั้งหมดแล้วนะคะ


ค่ายนี้ไม่ได้เข้ายากเกินไป คนธรรมดาก็คว้าถึงได้ พี่เองก็ถือเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ในความเห็นส่วนตัว คนที่เข้าค่ายนี้ได้ คือคนที่เข้าถูกสาขา วิเคราะห์ประเด็นที่กรรมการโยนมาให้ได้ถูกจุด ทำการบ้านได้ตรงประเด็น และที่สำคัญที่สุดคือ มีใจรักในสาขานั้นๆ 
ได้ยินมาว่าน้องหลายคนเลือกเข้า Web Content เพราะคิดว่าเข้าง่าย สาขาอื่นยากไป ไม่สามารถเข้าได้ ฯลฯ
ตอนได้ฟังก็แอบเสียใจเหมือนกันนะ (เพราะเข้าค่ายสาย Web Content เหมือนกันและรักในสายนี้มากๆ) การเขียน Content ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะเขียนให้ดี มีคุณภาพ ถูกจริยธรรม ทำได้กี่คนกัน? ถ้า mindset ตอนแรกน้องไม่ได้รักสาย Content โอกาสในการผ่านสัมภาษณ์ก็ยากแล้ว (นอกจากน้องจะมีความสามารถพิเศษหรือโดดเด่นจริงๆ ซึ่งพี่ไม่ได้เป็นกรรมการ ก็ตอบไม่ได้นะคะ - -")

เลือกสมัครสาขาที่ตัวเองอยากเข้า แรงบันดาลใจ แรงผลักดันอะไรๆ มันก็ต่างกันแล้วค่ะ



แต่ก็มีเรื่องหนึ่งอยากบอกน้องๆ คือ

>>> น้องปีนี้เก่งกันมากๆ เลยค่ะ <<<

คำพูดนี้มาจากกรรมการเลยนะคะ ใครที่ไม่ติดตัวจริงค่ายนี้ ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะ อย่าเพิ่งถอดใจ ปีหน้าเอาใหม่ ทุกโอกาสเป็นของเราได้เสมอ ขอแค่มีความพยายามและตั้งใจจริง

พี่กรรมการทุกสาขาคัดน้องๆ อย่างตั้งใจและจริงจังเช่นเดียวกับที่น้องๆ ตั้งใจมาสัมภาษณ์นั่นแหละค่ะ


ในช่วงบ่าย น้องๆ ที่สัมภาษณ์ออนไลน์จะทักมาบ่อยมาก (ด้วยความกระวนกระวายใจ) ว่าทำไมตัวเองยังไม่ได้สัมภาษณ์ซักที โดยส่วนมากแล้วจะเป็นน้องสาขา design พี่ก็ทำได้แค่บอกว่า น้องสาขา design รอสัมภาษณ์เยอะมากจริงๆ ค่ะ แต่น้องจะได้สัมภาษณ์แน่นอน พี่ๆ ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่แล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่วายเกิดเรื่องที่ทำให้พี่เสียใจ เพราะมีน้องบางคนต้องไปสอบโปรเจคของทางมหาวิทยาลัย เวลาที่นัดน้องไว้ หรือเวลาที่น้องว่าง กรรมการไม่สามารถสัมภาษณ์น้องได้ ก็เลยต้องสละสิทธิ์ไปตามระเบียบ พี่รู้ว่าน้องคงเสียใจ เสียดายหรืออะไรก็ตาม พี่ที่เป็นคนดูแลเรื่องนี้ก็รู้สึกไม่ต่างกันค่ะ ถ้ามีโอกาส...ปีหน้าพี่อยากให้น้องลองใหม่อีกสักครั้งนะคะ

ในที่นี้พี่ขอรวมน้องปอปอยz ปีนี้ไม่ติดค่ายก็จริงแต่ปีหน้า

เอาใหม่อีกรอบนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้ ;3

ภาพจากน้องปอปอยz
ท้ายที่สุดแล้วน้องที่รอคิวสัมภาษณ์ออนไลน์ก็หมดลง น้องได้สัมภาษณ์กับกรรมการทุกคน (พี่เข้าใจว่าเป็นอย่างนั้นนะ) อาจจะมีบางคนที่ตกหล่น หรือรอนานมาก อันเนื่องจากการผิดพลาดในกระบวนการทำงานของพวกพี่ พี่ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ พี่พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้น้องทุกคนที่รอในคิวได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์กับกรรมการค่ะ

การที่น้องรอสัมภาษณ์ออนไลน์ได้สัมภาษณ์ครบทุกคนถือเป็นการปิดงานที่สวยงามที่สุดของพี่


พอปิดงานสัมภาษณ์ออนไลน์ พี่ก็จะได้เลิกเครียด เลิกปวดคอ ได้เดินร่อน แล้วก็ไปถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ ซักที 555+ (ประเด็นหลังคืออะไร!!!?)

ปล. ใครที่เอาน้ำมาให้เรากินหลายต่อหลายแก้วตอนเรานั่งเครียดอยู่หน้าคอม เราขอบคุณมากนะ ^^
ปล.2 ขอบคุณคนที่ซื้อน้ำส้มมินิทเมด พัลพิมาเติมน้ำตาลในเส้นเลือดให้
ปล.3 ขอบคุณคอมของวิปที่แบกมาให้ด้วยนะ ขอโทษที่มันโดนเราทำร้ายร่างกายไปหลายรอบผ่านการกดคีย์บอร์ดแบบโหดๆ = =)"


หลังจากปิดการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ กราบขอบคุณพี่ๆ กรรมการทั้งหลาย Staff รุ่น 9 ก็ช่วยกันเก็บของอย่างเอื่อยเฉื่อย (เนื่องจากพลังหมด) พวกเราก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน ต้องขอถ่ายรูปทีมงานเป็นที่ระลึกนิดนึง (เป็นแค่ทีมงานบางส่วน เนื่องจากบางคนกลับไปแล้ว หรืออย่างท่านประธานที่เอารถมอไซค์ไปซ่อม)

by @jiraz
พอท่านประธานกลับมาพวกเราก็แยกย้าย (ท่านประธานอดถ่ายรูปไปตามระเบียบ 555+) แต่ก็ยังเหลือ staff บางส่วนที่ลากสังขารไปประชุมกันต่อที่ Mc ด้านล่างตึก  CP Tower นั่นเอง แน่นอนว่า 1 ในนั้นก็ยังมีเราอยู่นะ (ประชุมไป กินไป แล้วก็หาวกันไป - -")


เป็นการประชุมสรุปงานประจำวันนี้ และเตรียมงานที่จะทำกันต่อ...จะฟิตกันไปไหนเนี่ย = =)zzZ

พอถึงเวลาอันสมควร (สองทุ่มกว่าๆ) ก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้านไปนอนสลบเหมือด (ไม่อยากบอกว่าวันรุ่งขึ้นจากคนปกติได้กลายเป็นซอมบี้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดคอ ครบเลย 555)

ก่อนจะจบ entry นี้
  • ขอบคุณพี่ๆ กรรมการทุกท่านนะคะที่เสียสละเวลามาสัมภาษณ์น้องๆ
  • ขอบคุณพี่ๆ senior ที่แวะมาทักทายน้องๆ พูดคุยกับน้องๆ สร้างเสียงหัวเราะร่วมกัน 
  • ขอบคุณพี่เอิร์ธที่มาดูแล คอยมาถามไถ่ว่า "ไหวไม๊" อยู่เรื่อยๆ

สุดท้าย...

ขอบคุณ Staff YWC 9 ทุกคนที่ช่วยกันทำให้วันสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ 

entry นี้ ขอบคุณภาพจาก

คงมีอีกหลาย entry เกี่ยวกับ #ywcth ถ้าไม่ขี้เกียจนะ :D
ขอจบ entry นี้แบบเบาๆ ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง //แอ้ก สลบเหมือด


สำหรับด้านล่างนี้ เป็นบทความจากทางฝั่งกรรมการ บอกถึงการตัดสินน้องๆ ในรอบสัมภาษณ์นะคะ

โจทย์ คือสิ่งสำคัญ งานนี้มันเป็นแค่ประโยคเดียวสั้นๆ เราต้องท่องจำสะกดจิตตัวเองให้แม่น ให้เป๊ะ ขึ้นสมอง อย่าจำแบบคลุมเครือๆ ไม่งั้นตอนสร้างผลงานเราก็จะไม่แม่น ไม่เป๊ะ และคลุมเครือๆ แบบนั้น ไม่ตรงกับความต้องการ  การทำผิดโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ เป็นผลเสียทั้งต่อตัวเราเองที่ต้องไปแก้ไขใหม่ และต่อลูกค้าที่ต้องเสียเวลาและเสียอารมณ์ 
- บทความจากพี่ป้อมศิวัฒน์ กรรมการฝั่ง marketing
ดูความตั้งใจในการเข้าค่าย ผ่านทางความพยายามทำการบ้านมา, ดูความรู้ ความคิดเชิงวิเคราะห์ และตรรกะผ่านการบ้านเช่นกัน, ดูบุคลิกลักษณะ พูดจารู้เรื่องหรือไม่ เพราะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกันเป็นทีม สุดท้ายผมขอสามคำ … ไม่ได้หวังอะไรมาก นอกจากดูไหวพริบ ความไวในการคิดและทัศนคติ 
อยากบอกกับน้อง ๆ ทุกคนที่ไม่ได้รับโอกาส ส่วนใหญ่แล้วน้องๆยังปีน้อยๆกันอยู่เลย ได้โปรดใช้เวลาครับ เอาคำแนะนำพี่ที่ได้บอก กลับไปเพิ่มความสามารถ ประสบการณ์ตัวเอง และกลับมาตอกหน้าพี่อีกครั้งในปีหน้า ว่าคุณพร้อมแล้ว 1 ปีที่ผ่านมา คุณทำอะไรได้มากขึ้นขนาดไหน ผมไม่ได้ไปไหน ปีหน้าน้องรอเจอพี่ได้เลยครับ!
"เลือก Web Content เพราะน่าจะไม่ผ่าน Programming / Marketing / Design" ซึ่งแน่นอนว่า.. ถ้าน้องไม่สามารถทำให้พี่เชื่อได้ว่า น้องจะเอาความสามารถส่วนที่น้องมี.. มาเสริมความสามารถสาย Content... มันก็จะไม่มีการคิดคะแนนส่วนนี้เลยครับ โฮะๆๆๆ
สุดท้ายแล้ว คนที่ไม่ผ่าน พี่เชื่อว่า ถ้าคุณได้อ่าน Blog ตอนนี้ พี่เชื่อว่า คุณจะสามารถปรับตัวเอง และทำความเข้าใจในสายงานของ Web Content ว่าจริงๆแล้ว มันคืออะไรกันแน่ และเตรียมตัวมาเพื่อปีหน้าอีกครั้ง และเราจะได้เป็น ครอบครัว YWC ด้วยกันแน่ๆครับ

ความคิดเห็น

  1. เป็นบทความแสดงถึงผู้จัดงานได้เป็นอย่างดีเลย เห็นมุมมองและความพยายามของสตาฟได้ชัดเจน ^_^

    ตอบลบ
  2. สุดท้ายเมื่อดูรูปทุกกล้อง ก็ไม่มีรูปผมอยู่ดี เศร้า T.T
    ขนาดตอนประชุม ยังโดนพริ้วโดนบัง...เศร้าหนัก... T.T

    ตอบลบ
  3. รวบตั้งแต่entryที่แล้ว
    จากที่อ่านมารู้สึกได้ว่าเรือลำนี้แล่นออกจากฝั่งมาได้แบบทุลักทุเลพอควร ทั้งกะลาสีง่วงเหงาหาวนอน หรือพ่อครัวที่ลืมเอาเครื่องปรุงขึ้นเรือ แต่ถ้าทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบ ความทรงจำทั้งดีทั้งร้ายก็คงไม่เกิดขึ้นล่ะนะ

    สัมภาษณ์ออนไลน์เปิดโอกาสให้ทุกคนดี แต่เราว่ามันไม่ลุ้นเท่าตอบสดๆ ห้องเย็นๆเงียบๆนะ มันไม่ได้สัมผัส"สูญญากาศ"ตอนคิดคำตอบ...หรือเราชอบอะไรโหดๆหว่า (ต่อ)

    ตอบลบ
  4. สุดท้ายเรือลำนี้ก็มีผู้เดินทางครบครันแล้ว การออกจากฝั่งไปยังจุดหมายที่วางไว้ คงไม่ยากลำบากเท่าการฝ่าฟันลมฝนข้างหน้า ไว้จะตามอ่านบันทึกเปียกเหงื่อชุ่มจากลูกเรือคนนี้ต่อใน entry ถัดไปนะ :) (ขอตัดแปะเพราะเม้นแล้วไม่ขึ้นสักที)

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์ตรงกับการโดน Facebook บังคับเปลี่ยนชื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "รอ"

สองชั่วโมง สองที่เที่ยว ด้วย เรือหางยาว เจ้าพระยา

น้องนีโม่ กับ โรคฉี่หอม