บันทึกการเดินทาง: กระบี่ พีพี และคายัค #ywcouting
คำเตือน: Blog นี้ภาพเยอะมาก กรุณาเชื่อมต่อ Wifi
บล็อกนี้เกิดขึ้นได้เพราะเห็นน้องเมย์เขียน ปกติแล้วไปเที่ยวกับแก๊ง #ywcouting ทีไรก็ไม่เคยเขียนเลยเพราะว่ากลับมาก็เหนื่อยมาก 55+
ทริปที่ 26 นี้ เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้ว (6 มี.ค. 59) ตอนที่คน 7 คนกำลังนั่งรถทัวร์แบบพัดลมเดินทางไปสร้างฝาย (ทริปที่ 18) ตั๋วเครื่องบินก็ลดราคาพอดี ด้วยความที่แก๊งเราเป็นพวกมือไวใจเร็ว เป็นสายลั่นตั๋วโปร เลยให้ปั๊มจองรอบแรกไปกระบี่ด้วยราคา 300 กว่าบาท แล้วแบงค์ตามเก็บรอบสองด้วยราคาใกล้เคียงกัน ส่วนราคาขากลับก็น่าจะประมาณ 700 นิดๆ อันนี้มาซื้อทีหลัง รวมไปกลับพันกว่าบาท ถูกกว่านั่งรถทัวร์อีกนะคะคุ๊ณณ
1 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก พวกเราเดินทางออกจากออฟฟิศ หรือบ้าน หรืองานอีเว้นท์ในคืนวันที่ 2 มีนาคม 2560 นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง ที่หน้า Gate เวลา 3 ทุ่ม
เรา จิม แบงค์ น้องเกด นัดเจอกัน BTS หมอชิตตอน 1 ทุ่มครึ่ง กะว่าจะนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน แต่ไปๆ มาๆ เหลือแค่ 3 คน เพราะน้องเกดไปกินข้าวอยู่กับเพื่อนที่สะพานควาย พวกเรา 3 คนจึงเดินทางด้วยรถบัส A1 มาลงที่ Airport
จากนั้นก็ไปกินอาหารที่ food court อาคาร 2 ซึ่งจิมกินอาหารคาว อาหารหวาน แล้วปิดด้วยอาหารคาวอีก 1 จาน (ถ้ามีเวลามากกว่านี้คงกินได้อีก ไม่รู้ว่าไปหิวมาจากไหน -_-)
จากนั้นก็เดินผ่านประตู สแกนข้าวของ ผ่านเข้าไปด้วยกัน 5 คน มีพี่ยูกิกับพี่ป๋อมเพิ่มมา เดินด๊อกแด๊กมานั่งรอหน้า Gate ด้วยความชิล ครั้งนี้มีคนที่น่าตื่นเต้นเพียงคนเดียวคือน้องเมย์ที่มาจากงานอีเว้นท์ (หยกโทรตามรัวๆ) ส่วนพี่แทนนี่กับโบว์ลิ่งไปนอนรออยู่ที่กระบี่แล้ว
เมื่อมาถึงสนามบินก็มีรถตู้มารับ 2 คัน พาเราไปโรงแรมออเรนจ์ทรีเฮ้าส์ ทำการเช็คอิน เอากุญแจมาแจก นอนห้องละ 2 คน (รูมเมทของเราคือพี่ยูกิ) จากนั้นก็แยกย้ายสลายตัวกันอย่างรวดเร็วเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางแต่เช้า
เจดสะดาเอาของเล่นใหม่ออกมาบิน https://www.instagram.com/p/BRJ8T3RABps/ |
เช้านี้ตื่นมาอาบน้ำ เก็บของแล้วเดินไปหาอะไรกิน เดินวนผิดไปหน่อยไปอ้อมบล็อคกว้าง เลยได้เจอพี่มอเตอร์ไซค์ ที่คงเห็นหน้าเราแล้วมองออกทันทีว่าเป็นคนแปลกที่แปลกทาง บอกว่า "มีร้านอาหารเช้าเยอะแยะ มีร้านติ่มซําด้วยแต่จะต้องเดินไปตรงตลาดเช้า" ซึ่งเราไม่มีเวลามากขนาดนั้น ก็เลยไปจบที่ร้านข้าวหมูกรอบที่เสือกับเก้านั่งกินอยู่ก่อน แล้ว แทน จิม พี่แทนนี่ น้องเมย์ก็ตามมาสมทบ ข้าวหมูกรอบที่นี่กร๊อบกรอบ แถมมีกระเทียมเจียวมาให้อีกด้วย
เมื่อมีอะไรรองท้องกันเรียบร้อยก็กลับมารวมพลกันที่ Lobby ของโรงแรม คนดูแลเช้านี้ใจดีบอกว่า มีของอะไรฝากไว้ได้นะ (เพราะว่าคืนวันเสาร์เราจะกลับมานอนที่นี่อีก) โบว์ลิ่งเลยฝากกระเป๋ากล้องไว้ ส่วนเสือฝากรองเท้าผ้าใบ (ซึ่งเสือเกือบไม่เอารองเท้ากลับ กทม. ด้วย - ได้คู่ใหม่แล้วลืมคู่เก่าซะงั้นแหละ)
cr: daewoojaa |
จากนั้นก็มีรถตู้ 2 คัน (ที่มีคันนึงเปลี่ยนไปจากเมื่อคืน) มารับไปท่าเรือ เกือบมีเรื่องกับลุงคนขับรถตู้คันนึง ที่บอกว่า "รถผมรับได้แค่ 8 คน เพราะต้องไปรับฝรั่งอีก 2 คน" แล้วคืออีกคันที่มาเป็นฮุนได 10 ที่นั่งที่มีขนาดเล็กกว่ารถตู้ ยัดผู้ชายเข้าไป 8 คนก็แน่นเอี๊ยดละขร่าาาา
cr: Sutham Pom Thammawong |
อีก 10 คนที่เหลือก็เลยต้องไปยัดกันอยู่ในรถของลุงคนขับที่บอกว่ารับได้แค่ 8 คนนั่นแหละ คัดคนตัวเล็กมาได้ดังนี้ โบว์ลิ่ง พี่ยูกิ น้องเมย์ แก๊ป หยก จิม ปั๊ม น้องเกด น้องปอย เราเอง (จงหาคนตัวไม่เล็กค่ะ :P)
cr: chavasgap |
ซึ่งคันที่เรานั่งต้องแวะไปรับฝรั่งอีก 2 คนชะมะ ก็ไปเสียเวลารออยู่หลายสิบนาที เพราะเค้ามีมากกว่า 2 คน ต้องแยกรถกัน ต้องตกลงกันก่อน แล้วเค้าทั้งสองที่เป็นผู้ชายตัวโตก็ต้องนั่งเบียดกันข้างหน้าสุดตรงข้างคนขับ โดยมีสัมภาระของเค้ามาฝากไว้ตรงแถวที่เรานั่ง -_-
พอคันเราไปถึงท่าเรือ หยกก็รีบวิ่งไปเอาตั๋วสำหรับ 18 คน แล้วก็ให้ทุกคนวิ่งกันดุ๊กๆๆๆ เพื่อไปขึ้นเรือ เพราะว่าเรือจะออกตอน 9 โมงครึ่ง
cr: Sutham Pom Thammawong |
หลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือเรียบร้อย ก็มีกลุ่มนึงตั้งวงเล่นเกมกัน เล่นกันด้วยความสนุก จนบางทีก็เสียงดังมากกกก ทำให้เรารู้สึกเกรงใจคนอื่น 55 (พวกนี้เป็นใคร ไม่เห็นรู้จัก...)
งานตั้งวงก็มา https://www.instagram.com/p/BRKJStugl35/ |
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงเกาะพีพี ที่นี่เราต้องเสียค่าทำความสะอาดเกาะ คนละ 20 บาท
cr: Sutham Pom Thammawong |
จิมเอาโดรน ของเล่นใหม่ออกมาบิน ลมแรง เครื่องมีความส่าย |
พอเข้าไปแล้วก็จะเจอกับคนที่มาช่วยรับกระเป๋าเราและพาเราเดินไปโรงแรม เขาบอกว่า "ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร" แต่ด้วยแสงแดดอันแรงกล้าที่แผดเผาเราให้มอดไหม้ได้ เลยทำให้มีความรู้สึกว่ามันไกลกว่านั้น อีกอย่างคือกำลังหิวด้วย (พวกที่แอบแวะกิน Pizza ระหว่างทาง โดยเฉพาะคนที่จองโรงแรม มันช่างน่าตี!)
ที่พักของเราคืนนี้คือ อันดามัน บีช รีสอร์ท จองไว้ทั้งหมด 5 ห้อง คือ
- ห้องละ 5 คน จำนวน 1 ห้อง
- ห้องละ 4 คน จำนวน 1 ห้อง
- ห้องละ 3 คน จำนวน 3 ห้อง
ชายหาดหน้าที่พัก https://www.instagram.com/p/BRKcGj-gG2K/ |
ซึ่งตอนที่เราไปเช็คอินสามารถเข้าได้แค่ห้อง 3 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แค่เอากระเป๋าเก็บไว้แล้วออกไปหาข้าวกลางวันกิน
ระหว่างที่รอเช็คอิน จิมก็เอา mavicpro ขึ้นบินเล่น ความตลกคือ ตอนเรียกมันกลับมาเก็บ มีฝรั่งคนนึงวิ่งตามมาด้วย ในมือของเค้าถืออุปกรณ์บังคับแบบเดียวกับจิม เค้าคิดว่าเครื่องที่บินมาจอดนี้น่าจะเป็นของเค้า แต่เปล่าจ้า ของเค้าหายไปไหนแล้วไม่รู้ 555+
เอะอะก็ขึ้นบินตลอด cr: Look Kate |
ข้าวกลางวันวันนี้ เราไปกินกันที่ร้านแอมคาเฟ่ Amp' cafe ได้ชื่อร้านนี้จากการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีของน้องปอย เข้าไปทีเต็มร้านเลย 55+ แยกโต๊ะกันนั่ง สั่งต่างกันไปตามความพอใจ (และความหิวโซของแต่ละคน)
cr: Look Kate |
- ต้มยำที่มีรสชาติคล้ายแกงส้ม
- การลดราคาอาหารให้ 20% เพราะเป็นคนไทย
- และความน่ารักของพนักงานที่มาแนะนำสถานที่เที่ยวบนเกาะ เอาแผนที่มาให้ เอาปากกามาวงๆ ให้ด้วย
พอกินเสร็จก็แยกย้ายกันไป freestyle ตามความชอบของตัวเอง เรา แบงค์ น้องปอย จิม พี่ยูกิ น้องเกด ไปกิน Mango Garden กันต่อ (เสือมานั่งดูและร่วมพิธีกรรมบูชาอาหารเฉยๆ)
https://www.instagram.com/p/BRNU-PTAjW4/ |
หลังจากซัดโฮกไปด้วยความเร็วแสง แบงค์ก็แยกตัวกลับไปที่พักก่อน เพราะจะไปเอาอุปกรณ์ถ่ายภาพเพิ่มเติม พวกเราที่เหลือจึงเริ่มเดินสำรวจเกาะพีพี
เดินไปสุดหาดฝั่งนึงแล้วก็เดินย้อนกลับมาอีกฝั่งนึง เจอคนเล่นสิ่งนี้ด้วย (มันเรียกว่าอะไร?)
แม่ค้าผู้ให้บริการบอกว่าราคา 1,500 บาทต่อเที่ยว เพราะว่าใช้พนักงานในการเอาขึ้นเยอะ เท่าที่ดูแล้วได้ขึ้นไปอยู่บนฟ้าประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ค้ากำไรเกินควรไม๊ หรือเราจนเอง T T)?
จากนั้นก็เดินไปดูร้านอาหารเย็น ที่ชื่อว่า Papaya Restaurant ที่น้องปอยได้โทรมาจองไว้จากการแนะนำของรีเซฟชั่นโรงแรม เดินมาดูเมนูอาหารและแอบพักเหนื่อยไปในตัว
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทะมึน คล้ายว่าจะมีฝนตก แต่พอเราออกเดินทางกันต่อ แดดเปรี้ยงก็กลับมา -_- พวกเราเดินวนไปดูอาคารหลบภัยสึนามิที่ดูเหมือนว่าจะร้างไปแล้ว
แล้วก็ตัดสินใจปีนบันไดกี่ร้อยขั้นไม่รู้เพื่อไปที่จุดชมวิว เสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาทเนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
วันนี้พระอาทิตย์จะตกตอน 18.37 (Google บอกอย่างนั้น) พวกเราปีนขึ้นไปถึงตั้งแต่ประมาณสี่โมงนิดๆ ก็ได้มาเจอแบงค์ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ซึ่งแบงค์บอกว่า "ขึ้นมาอีกทางหนึ่ง เป็นทางลูกรังดินแดง ลำบากกว่าบันไดที่พวกเราขึ้นมามาก อารมณ์เหมือนทีลอซู ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์อีก"
จิมเอาโดรนขึ้นบินถ่ายภาพจากมุมสูง https://www.instagram.com/p/BRK_Xg7A80w/ |
เมื่อขึ้นมาแล้วนอกจากความเหนื่อยหอบและไม่รู้จะทำอะไร ก็ถ่ายรูป นั่ง นอน กิน ถ่ายรูป วนไปค่ะ
มุมนี้เป็นมุมมหาชน https://www.instagram.com/p/BRLJMW7gE7_/ |
พอ 5 โมงเย็นเป็นต้นมา ชาวแก๊งก็ทยอยปีนกันขึ้นมา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พบเห็นได้มากบนเกาะนี้ (ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างชาติหมดเลยนะจ๊ะ)
ยิ่งตกเย็นคนก็ยิ่งเยอะ ทุกคนต้องหามุมถ่ายภาพเป็นของตัวเอง ความยากอยู่ที่ชาว timelapse ทั้งหลายที่พอตั้งกล้องตรงไหนก็ต้องมีคนมาบังหน้ากล้องตลอด 55+
cr: chavasgap |
ส่วนภาพด้านล่างนี้ได้มาอย่างยากลำบาก ใช้ความอดทนสูงมากกกกก ในการรอคอยให้คู่รักชาวต่างชาติถ่ายภาพกับวิวจนพอใจ นานขนาดที่ว่าเอาโดรนขึ้นบินไปแล้วกลับมาแล้วรอบนึง พวกเขาก็ยังถ่ายไม่เสร็จ ไม่พอใจซักที ได้แต่ท่องในใจว่าเราเป็นเจ้าบ้าน อย่าไปกัดเขา (ฮึ่มมมมม)
น้องปอยโดนแสงเซนเซอร์หน้าเขียวเลย cr: Nopparid Ton Mokpradab |
cr: Sutham Pom Thammawong |
เป็นการใช้เวลาเสพธรรมชาติที่คุ้มค่ามา นั่งดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ตก จากอากาศและแสงแดดที่ร้อนมอดไหม้ ค่อยๆ ทอแสงละมุน ลมที่พัดมาก็ช่วยพัดพาเหงื่อให้แห้งเหือดไป
cr: chavasgap |
คนพื้นที่บอกว่า "มาช่วงเดือนนี้พระอาทิตย์ตกหลังเขา ช่วงเดือนเมษาจะตกลงทะเล" แต่แค่นี้ก็ ok แล้ว :)
cr: yugi5002 |
https://www.instagram.com/p/BRLKi20gfCg |
พอ 18.45 พวกเขาก็รีบเคลื่อนตัวลงมาก่อนที่จะมืดเกินไป (ตอนแรกจะลงมาเร็วกว่านี้ แต่น้องปอยขอ lapse ต่อแป๊บนึง) ระหว่างทางก็มีท่านแมงเม่ารอต้อนรับเป็นฝูง สิงสถิตอยู่ทุกหลอดไฟที่ติดไว้ตามทางเดิน บินเข้าหน้าเข้าตัวไปหมด
พอลงมาพื้นข้างล่างเรียบร้อย (ใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้นเยอะมาก) ก็รีบเดินไปร้านอาหารที่จองและสั่งไว้แล้วตอน 1 ทุ่มครึ่ง ทุกคนมาก่อนเวลา อาหารก็เลยมาเร็วด้วย ยกเว้น แก๊ป แทน พี่บอยที่ตามมาทีหลัง ของเลยเหลือน้อยไปหน่อย ขอโทษนะ ><"
สำหรับต้มยำของร้านนี้รสชาติเหมือนมัสมั่น เป็นสองมื้อที่สั่งต้มยำแล้วรสชาติไม่เหมือนกันซักที่ ดีจริงๆ 55+
อันนี้คือต้มยำ |
อันนี้คือมัสมั่น |
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จเราก็เดินไปที่ Beach ที่เค้าบอกว่ามีการแสดงโชว์ไฟทั้งแถบ ตอนนี้น้ำทะเลลดลงไปเยอะ ชาวแก๊งเราทำพิธี "บูชาไฟฉาย" จิมเอาโดรนขึ้นบินถ่ายรูปจากมุมสูง ดูลึกลับและทรงพลัง
cr: zinuzoid |
ประมาณ 3 ทุ่ม ทุกร้านแถบนี้จะมีการโชว์ไฟ เจ้าของร้านอาหารเมื่อกี้บอกว่า "จะโชว์กันไปถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งเลย"
cr: zinuzoid |
เป็นการโชว์ไฟที่นักแสดงดูมีพลัง (และ Six pack เป็นมัดๆ) แต่ละร้านจะมีเทคนิคบางอย่างเป็นของตัวเอง แต่โดยรวมแล้วก็คือการควงไฟไปมานั่นแหละ ร้านไหนนักแสดงเยอะกว่าก็จะดูทรงพลังมากกว่า เล่นอะไรได้หลากหลายมากกว่า
ชอบที่หลายร้านมีเด็กน้อยมาเล่นด้วย เด็กน้อยในวันนี้จะเป็นผู้ใหญ่ที่ทรงพลังในวันหน้าแน่นอน
คนเล่นไฟ ภาพนี้เป็นภาพที่เราชอบที่สุดในคืนนั้น https://www.instagram.com/p/BRLe9htgLQ0/ |
เดินดูพวกเขาอยู่สักพัก พวกเราก็ตัดสินใจเดินกลับที่พักกันดีกว่า แต่ก็ยังไม่วายหาของกินกันไปตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า (ที่นี่หาร้านขายพิซซ่าง่ายกว่าเซเว่น) ถังL ไอติม โรตี ฯลฯ
เรากับจิม เดินจ้ำไปถึงที่พักก่อน แต่ประสบปัญหาเข้าห้องพักไม่ได้ทั้งคู่ ไม่รู้ว่าตัวเองนอนห้องไหน แล้วก็ไม่มีกุญแจเพราะมัวแต่ออกไปเที่ยวทั้งวัน ต้องรอเพื่อนมาเปิด 55+
หลังจากเข้าพักห้องเรียบร้อย คืนนี้เรานอนกับ หยก โบว์ลิ่ง น้องเมย์ ก็ได้เจอ "ปีเตอร์ 1 ตัว" บนเตียงนอน หยกกับโบว์ลิ่งทำหน้าที่เป็น Sound effect ที่ดี เพิ่มความสยองในการกำจัดมันออกจากห้องของเราได้ดีมาก (กลัวเสียงสองคนนี้เนี่ยแหละ) สิ่งเดียวที่เรากลัวคือ "มันบิน" แต่ดีที่ตัวนี้ไม่ได้บิน แล้วเราสามารถใช้ผ้าตบมันออกไปนอกห้องได้ (ไม่อยากฆาตกรรมมัน) ขอบคุณความช่วยเหลือจากน้องเมย์ที่คิดไอเดียเอาไดร์เป่าผมเป่าให้มันบินออกมาจากหลังทีวี
...ถ้ามันยังอยู่ในห้อง คงหลับไม่เป็นสุขกันแน่ๆ
มานั่งคิดดูดีๆ เวลาที่พี่ป๋อมมาร่วมทริปด้วยทีไรจะต้องเจอปีเตอร์ในห้องนอนเรากับหยกทุกที ต้องเป็นพี่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ ... (แซวเล่นนะ)
ยังจะอุตส่าห์ถ่ายภาพเก็บไว้อีก cr: Bow Ling |
จากนั้นก็มีแก๊งหนึ่งออกไปนั่งชิวกันริมหาด ส่วนเรากับน้องเมย์ขอสลบก่อนนะ นอนดีกว่า zzZzz
เช้าวันรุ่งขึ้น ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 7 โมงครึ่ง แต่หกโมงครึ่งก็ตื่นเองเฉยเลย -*-
ก็เลยเดินออกไปชายหาด ถ่ายพระอาทิตย์ ถ่ายทะเล ถ่ายความสงบเงียบในยามเช้า เป็นความรู้สึกที่คนละโลกกับเมื่อคืนเลย
https://www.instagram.com/p/BRMfIHtAFiR |
จากนั้นก็กลับมาเข้าห้องน้ำ แล้วก็ออกไปกินข้าวเช้ากับหยก ได้เจอเสือกำลังนั่งดูมือถืออย่างตั้งใจ โดยไม่สนใจสาวสวยข้างๆ ที่นั่งอยู่ด้วยเลย "โอม ม ม ม ม ม จงเงยขึ้นมา"
หลังจากเติมพลังตอนเช้าเรียบร้อยก็กลับมาอาบน้ำ เก็บของ เตรียมตัวลงเรือและ check out โดยเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่ล็อบบี้ กว่าเราจะได้ออก ก็เกือบ 10 โมง เพราะว่าเรือติดหาดอยู่ ได้ช่วยกันเข็น ช่วยกันดันเรือออกไป
เอาโดรนขึ้นบินตามเรือ cr: zinuzoid |
เสือที่พยายามช่วยจับโดรน จนเกือบลอยไปกับโดรนแล้ว |
เราผ่านเกาะรังนก เกาะที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้ามาตอนดึกๆ นี่โดนยิงทิ้งได้เลยนาจา
แล้วไปดำน้ำกันที่อ่าวปิเละ ก่อนลงน้ำ จำเป็นต้องทำพิธีบูชาสถานที่ด้วยการถ่ายรูปที่หัวเรือ (ใช่เรอะ?)
cr: Chawit Hinngurn ที่ Live ตลอดเวลา https://www.facebook.com/tannysoft/videos/10154945860087457/ |
ที่นี่น้ำตื้น ปะการังตายค่อนข้างเยอะ (เห็นแบบมีสีน้อยมาก) แต่เราชอบตรงที่มีปลาหลากหลายชนิดที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ความแย่ที่สุดคือ "เค็มปี๋ แสบตา แสบคอไปหมด" แถมเรา น้องปอย น้องเมย์ พี่แทนนี่ ต้น จิม ดันว่าย(ตาม)น้ำไปไกล ตอนว่าย"ทวน"น้ำกลับมาขึ้นเรือนี่เกือบตาย หอบแฮ่กค่าาาา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น